พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. แถลงปฏิบัติการอายัดเงินในบัญชีกว่า 3 แสนบาท คืนผู้เสียหาย หลังถูกขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากบริษัทแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์ หลอกทำกิจกรรม แล้วได้เงินค่าตอบแทน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.ท.โรจน์ศักดิ์ นัยผ่องศรี รอง ผกก.1 บก.สอท.2 ร่วมกันแถลงปฏิบัติการอายัดเงินในบัญชีกว่า 3 แสนบาท นำเงินคืนผู้เสียหาย ตามโครงการ “Money Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.8" ขบวนการแก๊งคอลฯ หลอกทำกิจกรรมในลาซาด้า สูญเงินกว่า 3 แสนบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ภิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ บช.สอท. ปราบปรามปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเน้นมาตรการเชิงรุกในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวข้องในลักษณะของการเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อใช้ในการก่อเหตุหลอกลวงประชาชน ตามโครงการ "Money Cash Back ปิดบัญชีตามล่าม้า คว้าเงินคืน"
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย. 67 ผู้เสียหายเป็นหญิงวัย 64 ปี ชาว จ.ลพบุรี เจ้าของร้านรับตัดเย็บเสื้อผ้า ถูกมิจฉาชีพโทรหาผู้เสียหายอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากบริษัท ลาซาด้า แล้วชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมทำงานออนไลน์กับบริษัท ด้วยการโพสต์สินค้า แชร์ลิงก์สินค้าต่างๆ ลงสื่อออนไลน์โดยอ้างว่าให้ค่าตอบแทนจำนวน 20 บาทต่อโพสต์
...
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทดลองโอนเงินไปร่วมกิจกรรม แล้วปรากฏว่าได้รับเงินโอนคืนมาจริงใน 3 ครั้งแรก มั่นใจว่าทำแล้วได้เงินจริง จึงได้โอนเงินเพิ่มอีกหลายครั้งไปยังบัญชีธนาคารปลายทางทั้งหมด 11 บัญชี รวมเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท แต่สุดท้ายไม่ได้รับเงินคืนจริง จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ
ต่อมา พ.ต.ท.โรจน์ศักดิ์ นัยผ่องศรี รอง ผกก.1 บก.สอท.2 พร้อมชุดสืบสวน ได้ร่วมกันสืบสวนสอบสวนจนทราบผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิด โดยทำหน้าที่เปิดบัญชีม้ารับโอนเงิน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ ที่ จ2524/2568 เข้าจับกุมนายเกรียงไกร เขียนแป๊ะ อายุ 42 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี พร้อมทำการระงับธุรกรรมบัญชีธนาคาร ซึ่งใช้เป็นบัญชีม้า ยังมียอดเงินค้างในบัญชี จำนวน 303,200 บาท โดยติดตามจับกุมตัวได้ในพื้นที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
จากการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินในบัญชี พบว่าเป็นเงินของผู้เสียหายที่ถูกขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ทำภารกิจโอนเงินเข้าบัญชี โดยเงินที่อายัดได้นั้น ทางตำรวจไซเบอร์ได้ดำเนินการมอบคืนเป็นเช็คเงินสด 303,200 บาท ให้กับผู้เสียหาย
โดยตำรวจได้แจ้งกระทำผิดในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาเพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด"