เชียงใหม่ คืบหน้าชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจ อุ้มหนุ่มฮอดวัย 21 ปี กลับจากสังสรรค์ จอดรถแวะฉี่ข้างทาง บังคับรีดเงิน 2 หมื่น อ้างเมาแล้วขับ แลกกับการไม่ต้องส่งตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก หลังต่อรองเหลือ 7 พันบาท ล่าสุดเหยื่อเข้าโรงพัก ชี้ตัวตำรวจต้องสงสัย ถูกเป๊ะ เป็นตำรวจยศ จ.ส.ต. สังกัดชุดสืบสวน ด้าน ผกก.สภ.ฮอด ไม่นิ่งนอนใจ สั่งดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 จากกรณีชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจบุกจับหนุ่มฮอดวัย 21 ปี ที่กลับจากไปสังสรรค์กับเพื่อนจอดรถแวะฉี่ข้างทาง บนถนนสายฮอด-ดอยเต่า อ้างผู้เสียหายเมาแล้วขับ ก่อนจะพาเหยื่อขึ้นรถขับวนไปมาบริเวณทะเลสาบดอยเต่าวนไปมาหลายจุดและพูดจาใช้อาวุธข่มขู่จนผู้เสียหายหวาดกลัว ก่อนให้เหยื่อโทรหาญาตินำเงินค่าเคลียร์คดีมาให้ 2 หมื่นบาท พูดคุยต่อรองเกือบ 4 ชั่วโมงก่อนที่จะต่อรองเหลือ 7 พันบาทจึงยอมปล่อยตัว

นายเล็ก นามสมมุติ อายุ 21 ปี ชาวบ้านตาลใต้ ต.บ้านตาล อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เล่าเหตุการณ์เมื่อเวลาเที่ยงคืน 57 นาที ของวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังขับกระบะที่ยืมจากเพื่อนกลับจากงานเลี้ยงที่หมู่บ้านห้วยทรายแล้ง ต.บ้านตาล อ.ฮอด เพื่อจะไปหาแฟนสาวอีกหมู่บ้านในพื้นที่ อ.ดอยเต่า ขณะที่ขับรถมาถึงบริเวณบ้านดงดำ ต.ฮอด อ.ฮอด ซึ่งเป็นรอยต่อเขตอำเภอดอยเต่า ตนเกิดปวดปัสสาวะได้จอดรถเพื่อทำธุระข้างทาง หลังจากทำธุระเสร็จได้ขึ้นรถเพื่อขับไปต่อ มีชายฉกรรจ์ 2 คนได้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สวมเครื่องแบบได้แสดงบัตรประจำตัว แต่ตนมองไม่ชัดว่าเป็นตำรวจหน่วยไหน ขอตรวจค้นในรถแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ชายทั้งสองจึงถามตนว่าได้ดื่มสุรามาหรือไม่ ตนยอมรับว่าเพิ่งกลับจากการสังสรรค์ที่บ้านเพื่อน กำลังจะขับรถไปทำธุระที่อำเภอดอยเต่า ชายทั้งสองจึงได้พูดว่าจะนำตัวไปดำเนินคดีเมาแล้วขับ โดยที่ไม่ตรวจปัสสาวะ หรือเป่าแอลกอฮอล์ ก่อนจะพาตนขึ้นรถกระบะโตโยต้า สี่ประตู สีขาว ส่วนชายอีกคนได้ขับรถกระบะของตนตามมามุ่งหน้าไปอำเภอดอยเต่า ก่อนจะเลี้ยวเข้าทะเลสาบดอยเต่า และขับรถพาตนเข้าเส้นทางเปลี่ยวและจอดรถขับรถเปลี่ยนจุดเขตติดต่อ อ.ดอยเต่าและ อ.ฮอด 7-8 จุด

...

ตนได้บอกว่ามีเงินสดติดตัว 1 พันบาท ระหว่างนั้นได้ใช้อาวุธไม่แน่ใจว่าเป็นมีดหรืออาวุธปืนวางกับเบาะรถจ่อที่ข้างลำตัวตน ระหว่างนั้นได้จอดรถพูดจาข่มขู่ตนให้โทรศัพท์ติดต่อญาติให้นำเงินมาจ่าย 2 หมื่นบาท เพื่อเป็นการแลกกับไม่ต้องส่งตัวตนไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ ตอนนั้นตนรู้สึกกลัวมากเกรงว่าจะเกิดอันตรายถึงชีวิตจึงได้โทรศัพท์บอกนายหนุ่ม นามสมมุติ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพี่ชาย ให้ช่วยนำเงินมามอบให้ชายทั้งสองคนที่ควบคุมตัวตนไว้ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงได้โทรศัพท์ติดต่อญาติอีกหลายคนเพื่อให้ไปบอกพี่ชายตนที่บ้านจนตนได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่ชายใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างที่มีการเจรจาพูดคุยกัน ตนได้โอกาสตอนที่ชายคนดังกล่าวเผลอ จึงหยิบใบการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องของรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งระบุหมายเลขทะเบียนรถคันดังกล่าว จนในที่สุดชายฉกรรจ์ทั้งสองคนสามารถติดต่อกับพี่ชายตนได้ และนำตัวมาปล่อยที่รถยนต์ของตนที่ชายอีกคนขับมาจอดไว้

ด้านนายหนุ่ม นามสมมุติ อายุ 31 ปี พี่ชายนายเล็กฯ ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากทราบว่าน้องชายตนถูกจับ ตอนแรกยังเข้าใจว่าน้องชายตนไปยืมรถเพื่อแล้วไปก่อเรื่อง จนระหว่างที่ได้คุยโทรศัพท์กับน้อง ได้บ่นกับน้องอยู่ว่าดึกดื่นแล้วยังก่อเรื่อง พอคุยกับน้องชายหลายๆ รอบจึงมั่นใจว่าน้องชายถูกชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจจับ และขอพูดคุยกับชายคนดังกล่าวแต่ได้รับการปฏิเสธ ตนจึงแสดงตัวว่า เป็นพี่ชายเขา ได้มีโอกาสพูดกับชายคนดังกล่าวผ่านช่องแชทเครื่องโทรศัพท์ของน้องชาย จนสายโทรศัพท์ถูกตัดหลายครั้ง แต่ก็ได้คุยกันจนได้ ทราบว่าน้องชายอยู่กับคนที่อ้างเป็นตำรวจ ระหว่างนั้นมีการติดต่อแต่ตัดสายทิ้งหลายครั้ง เหมือนถูกบังคับอยู่ว่าเป็นถูกตำรวจจับข้อหาเมาแล้วขับไป และต้องการให้นำเงิน 2 หมื่นบาทไปมอบให้ชายทั้งสอง ตนจึงได้แจ้งให้นายอินชัย เตจาบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้านตาลใต้ เพื่อไปขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฮอด ช่วยเหลือน้องตน เนื่องจากตนเชื่อว่ากลุ่มคนที่จับตัวน้องชายตน ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะไม่มีการนำตัวน้องชายตนส่งสถานีตำรวจ มีการเรียกร้องเงิน ซึ่งมีการต่อรองเงินจนเหลือ 7 พันบาท

เมื่อไปถึงสภ.ฮอด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยเหลือวางแผนที่จะจับกุมตัวชายทั้งสอง แต่เกรงว่าน้องชายจะได้รับอันตราย ตนได้โทรศัพท์ไปหาน้องชายพูดคุยกับชายคนดังกล่าวเพื่อต่อรองจ่ายเงินและให้ปล่อยตัวน้องชาย โดยได้นัดหมายให้ตนนำเงินไปวางไว้ที่ทางเข้าบ้านดงดำ ต่อมาชายคนดังกล่าวได้แจ้งให้ย้ายจุดส่งเงิน โดยให้ตนนำไปไว้ที่ใต้ป้ายวัดดอยอูบแก้ว ต.ฮอด อ.ฮอด เป็นเงิน 6 พันบาท เป็นแบงค์ 500 ใบ 10 ใบ แบงค์พัน 1 ใบ และเงิน 1 พันบาทที่ติดตัวน้องชายรวมเป็นเงิน 7 พันบาท เมื่อวางเงินแล้วก็ขับกลับไปยัง สภ.ฮอด เพื่อรอการปล่อยตัวน้องชาย

ต่อมาทราบว่า มีชายอีกคนมารอเก็บเงิน ส่วนน้องชายตนอยู่ในรถกระบะกับชายอีกคน หลังจากที่ทั้งสองคนได้เงินจึงพาน้องชายตนมาส่งที่รถที่จอดไว้บนทางเปลี่ยวใกล้กับบ้านดงดำ เมื่อพบน้องชายตนกับผู้ใหญ่บ้านจึงพาน้องชายไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ฮอด ไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่ นายอินชัย เตจาบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้านตาลใต้ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งจากนายหนุ่ม ว่าน้องชายได้ถูกชายฉกรรจ์ 2 คน อ้างว่าเป็นตำรวจแล้วพาขึ้นรถไปเพื่อเรียกรับเงินค่าปรับเมาแล้วขับ จึงสงสัยว่าไม่น่าจะเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้พานายหนุ่มไปที่ สภ.ฮอด เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวน้องชายนายหนุ่ม ซึ่งได้มีการวางแผนที่จะให้นายหนุ่มนำเงินไปให้แล้วให้เจ้าหน้าที่เข้าล็อกตัว แต่นายหนุ่มเกรงว่าน้องชายจะได้รับอันตราย เนื่องจากขณะที่มีการโทรศัพท์จากเครื่องของน้องชายนายหนุ่มฯ ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มชายฉกรรจ์เกรงว่าคนอื่นจะรู้หมายเลขโทรศัพท์ ตลอดระยะเวลาที่มีการต่อรองกัน คล้ายกับคนร้ายจับตัว รีดไถ ซึ่งบางครั้งผู้เสียหายมีโอกาสได้ถือโทรศัพท์ ได้แชทบอกกับพี่ชายว่า พี่ให้รีบเอาเงินมาให้เขามา ก่อนที่จะไม่ได้เห็นหน้ากันอีก แสดงว่าระหว่างที่มีการควบคุมตัวผู้เสียหายกลุ่มชายฉกรรจ์มีการข่มขู่ผู้เสียหายตลอดทำให้ผู้เสียหายไม่กล้าหลบหนี

...

ผู้ใหญ่บ้านตาลใต้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวบ่อยครั้ง ล่าสุดหลังเกิดเหตุการณ์นี้ซึ่งเกิดกับลูกบ้านของตน มีชาวบ้านที่ถูกกระทำลักษณะคล้ายๆ กัน ติดต่อให้ข้อมูลกับตน 5-6 ราย หลังจากนี้จะได้มีการประสานขอข้อมูลกับผู้เสียหายคนอื่นๆ อีกครั้ง ว่าเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุกับนายเล็กฯ ลูกบ้านของตนหรือไม่

โดยผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ ไปยังบ้านของผู้เสียหาย ซึ่งได้พบกับ ผู้เสียหายและพี่ชาย อยู่ในบ้าน โดย นายเล็กนามสมมุติ อายุ 21 ปี ผู้เสียหายเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจริง และตนรู้สึกกลัวมาก รวมทั้งพี่ชาย หลังเกิดเหตุ ก็ไม่กล้าที่จะออกจากบ้านในยามค่ำคืน เพราะกลัวว่าคนร้ายที่อุ้มไปรีดเงินในคืนนั้น จะเป็นตำรวจจริง หรือเป็นคนร้ายที่อ้างเป็นตำรวจก็ยังไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม ยืนยันอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดี จับคนร้ายให้ได้อย่างเร็วที่สุด เพราะทุกวันนี้ ครอบครัวนอนด้วยกันรวมกันเลย ต่างจังหวัดระแวง ไม่กล้าออกบ้าน

ทางด้าน นายอินทร์ชัย ผู้ใหญ่บ้านตาลใต้ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า คดีนี้ ตนเป็นห่วงลูกบ้าน เพราะอยู่ในความหวาดระแวง วันจะได้รับอันตราย ซึ่งตนพร้อมผู้ช่วย ผู้นำหมู่บ้าน ต่างเฝ้าระวังเหตุ โดยเฉพาะผู้เสียหาย วันนี้ทราบว่าทางพนักงานสอบสวน สภ.ฮอด ได้เรียกผู้เสียหาย ลูกบ้านของตน ไปชี้จุดและชี้ตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นตำรวจหรือไม่ โดยได้ชี้รูปชายฉกรรจ์ที่จำได้อยู่คนหนึ่ง ซึ่งเป็นตำรวจจริง ทราบว่าเป็นตำรวจยศจ่าสิบตำรวจ สังกัดชุดสืบสวน ส่วนอีก 1 คนนั้นจำไม่ได้ จะเป็นตำรวจหรือไม่ ไม่แน่ใจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาแล้ว

ทางด้าน พ.ต.อ.ดนุพันธุ์ ขว้างไชย ผกก.สภ.ฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า คดีนี้ ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ เลยสั่งให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน พร้อมนำตัวตำรวจต้องสงสัยมาให้ผู้เสียหายชี้ตัวภายในวันนี้ และคดีอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย เพื่อจะรวบรวมหลักฐาน รายงานให้กับผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งการตามขั้นตอนต่อไป

...