รวบแล้ว หนุ่มขายโรตีกลัดมันเพราะเมียกำลังท้อง ลวงสาวชายหาดพัทยา ขยี้กาม-ชิงทรัพย์ คืนเดียว 2 ซ้อน ตอนโดนจับยังขอติดสินบนตำรวจ 1.5 หมื่นแลกกับอิสรภาพ สุดท้ายถูกสอบเค้นให้การภาคเสธ อ้างเป็นการซื้อบริการทางเพศ

จากกรณีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบสัญชาติ ก่อเหตุลวงสาวไทย จากเลียบชายหาดเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ให้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ ก่อนจะพาขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวเข้าป่า ใช้อาวุธจี้ขู่บังคับ แล้วลงมือก่อเหตุข่มขืนและชิงทรัพย์ คืนเดียวมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ 3 ราย รายแรกอายุ 20 ปี, รายที่ 2 อายุ 17 ปี ทั้ง 2 รายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ส่วนรายสุดท้าย ผู้ก่อเหตุลงมือไม่สำเร็จ เพราะเหยื่อหญิงสาวหลบหนีออกมาได้ แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 20 พฤษภาคม ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น (อ่านข่าว: โจรหื่นหลอกสาวหาดพัทยา ขึ้นจยย. ใช้มีดจี้-ขืนใจ คืนเดียวเหยื่อ 3 รายซ้อน)

ล่าสุดในวันนี้ (22 พฤษภาคม 2568) เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก., พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง.ผกก.สส., พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่แกะรอยจากภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงการสืบหาตำหนิรูปพรรณของคนร้าย และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ จนพบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีดำแดง หลังก่อเหตุได้ขี่หลบหนีมุ่งหน้าออกถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปยัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

...

ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวนแกะรอยรถจักรยานยนต์ของคนร้าย จนสามารถไปควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ภายในห้องเช่า ย่านซอยโรงกรอง หนองขาม ม.5 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี (ห่างจากเมืองพัทยา 45 กม.) ทราบชื่อคือ นายติง อายุ 27 ปี อาชีพพ่อค้าโรตี ชาวเมียนมาร์ โดยระหว่างที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว นายติงให้การปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ยอมจำนนต่อหลักฐาน

เมื่อตำรวจค้นเจอกระเป๋าสะพายของนางสาวนก นามสมมุติ อายุ 20 ปี เหยื่อผู้เสียหายรายแรก ภายในมีเอกสารและโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องของนายติง ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับพาไปยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้การก่อเหตุ จอดอยู่หน้าห้องเช่า ก่อนจะควบคุมตัวนายติงมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา โดยระหว่างที่ควบคุมตัว เจ้าตัวมีอาการเครียด พร้อมกับมีการเสนอเงิน 15,000 บาท ให้กับตำรวจเพื่อแลกกับอิสรภาพ โดยอ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฝ่ายหญิงเป็นผู้สมยอมเอง เพราะมีการตกลงซื้อบริการทางเพศ

ภายหลังมาถึงโรงพัก ตำรวจมีการเค้นสอบนายติงนานเกือบ 1 ชั่วโมง แต่เจ้าตัวให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าตนเองมีอาชีพขายโรตีอยู่ในเขตพื้นที่ศรีราชา โดยมาทำงานหากินอยู่ในประเทศไทยได้ 7-8 ปี ปัจจุบันภรรยากำลังตั้งท้อง จึงเกิดอารมณ์เปลี่ยว จึงขี่รถจักรยานยนต์จากอำเภอศรีราชา มุ่งหน้ามายังชายหาดเมืองพัทยา เพื่อมาหาซื้อบริการทางเพศ จนมาเจอสาวรายแรก มีการตกลงราคากันในราคา 2,000 บาท แต่ด้วยความที่ไม่มีเงินไปเปิดโรงแรม จึงพาหญิงสาวเข้าป่า แต่หลังเสร็จกิจ หญิงสาวหนีไป โดยลืมทิ้งกระเป๋าไว้ที่รถ

ส่วนรายที่ 2 (ผู้เสียหายอายุ 17 ปี) มีการตกลงราคาเช่นเดียวกัน แต่พอพาขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ มุ่งหน้าไปยังที่เปลี่ยว ไม่มีผู้คน หญิงสาวดังกล่าวกลับไม่ยอมแล้วเดินหนีไป โดยไม่ทันได้มีการมีอะไรกัน ส่วนรายที่ 3 ยืนยันว่าไม่มี เพราะตนเองตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พักในอำเภอศรีราชา ก่อนจะถูกตำรวจตามมาจับกุมได้ดังกล่าว อีกทั้งปฏิเสธว่าไม่มีการใช้อาวุธมีดข่มขู่ผู้เสียหาย หรือ ลงมือชิงทรัพย์กับผู้เสียหาย

พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า ในคดีนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มีการสั่งการโดยตรง และกำชับให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา เร่งรัดติดตามผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้จงได้ เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ รวมถึงคนร้ายรายนี้เป็นบุคคลอันตราย ซึ่งภายหลังได้รับคำสั่ง ชุดสืบสวนมีการออกติดตามและแกะรอยผู้ก่อเหตุรายนี้อย่างกระชั้นชิด รวมถึงมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางของคนร้ายที่ใช้หลบหนี ไม่ต่ำกว่า 40 ตัว จนได้หลักฐานสำคัญคือทะเบียนรถที่ใช้ในการก่อเหตุ จนเป็นที่มาของการเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แบบคาหนังคาเขา

...

แต่อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักเชื่อในคำให้การของชาวเมียนมาร์รายนี้ โดยขอเวลาสอบสวนเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นได้แบ่งออกเป็นการกระทำความผิดออกเป็น 2 กรรม เนื่องจากมีผู้เสียหาย 2 คน โดยผู้เสียหายอายุ 20 ปี ตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหา “ข่มขืนกระทำชำเราและชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี” ส่วนผู้เสียหายอายุ 17 ปี อยู่ในระหว่างรอสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพและอัยการ เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป.