เผยข้อมูลรถจักรยานยนต์สายตรวจคันใหม่ ทดแทนรถจักรยานยนต์เก่า เพื่อการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ขณะที่ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น บอก CBR300 ตาม สภ.ต่างๆ ยังใช้ได้อยู่ เพียงแค่เอางบที่จัดซื้อรถใหม่มาเป็นงบซ่อมบำรุง เปลี่ยนอะไหล่ตามระยะ ก็ใช้ได้และประหยัดงบได้ตั้งเยอะ
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของนายวศิน สิริเกียรติกุล - Wasin Sirikiattikul ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจเพื่อทดแทนรถจักรยานยนต์เก่า โดยระบุว่า รถคันใหม่กับภารกิจของตำรวจสายตรวจ
การนำรถจักรยานยนต์ Honda ADV-160 ซึ่งเป็นสกู๊ตเตอร์แนวแอดเวนเจอร์ (Adventure Scooter) มาใช้ในภารกิจของตำรวจสายตรวจ ถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในบริบทของการลาดตระเวนในพื้นที่เมือง ชุมชนแออัด หรือสภาพถนนที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งสามารถวิเคราะห์ถึงความเหมาะสมได้ดังนี้: ความเหมาะสมของ Honda ADV-160 กับภารกิจสายตรวจ ADV-160 ผสานความคล่องตัวของรถสกู๊ตเตอร์เข้ากับสมรรถนะที่รองรับการวิ่งบนสภาพถนนที่หลากหลาย ทั้งถนนในเมือง ทางลูกรัง หรือพื้นที่ขรุขระ จึงมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานของตำรวจสายตรวจในหลายสถานการณ์
ข้อดีของการใช้ Honda ADV-160 ในภารกิจสายตรวจ
1. คล่องตัวสูง
- ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการเข้าถึงพื้นที่แคบ เช่น ซอยในชุมชน หรือถนนในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
2. ช่วงล่างยืดหยุ่น
- ระบบกันสะเทือนแบบยาวกว่ารถสกู๊ตเตอร์ทั่วไป ช่วยให้วิ่งบนถนนขรุขระหรือเส้นทางลูกรังได้ดี
...
3. เบาะนั่งกว้างและสบาย
- รองรับการขับขี่ระยะยาว ลดความเมื่อยล้าระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน
4. ประหยัดน้ำมันและดูแลรักษาง่าย
- ใช้เครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 160cc ที่มีความประหยัด พร้อมศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
5. มีพื้นที่เก็บของใต้เบาะ
- อำนวยความสะดวกในการพกพาอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น วิทยุสื่อสาร สมุดบันทึก หรืออุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน
6. รูปลักษณ์ทันสมัย
- ดีไซน์ที่ทันสมัยและดูแข็งแกร่ง ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวหรือเขตเมือง
ข้อเสียและข้อจำกัด
1. ไม่เหมาะกับภารกิจความเร็วสูง
- ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 160cc และระบบส่งกำลังแบบ CVT จึงไม่เหมาะสำหรับการไล่ล่าหรือภารกิจที่ต้องใช้ความเร็วสูง
2. ไม่มี ABS ในทุกรุ่นย่อย
- หากไม่ได้เลือกใช้รุ่นที่มีระบบ ABS อาจเกิดความเสี่ยงในสถานการณ์เบรกกะทันหัน
3. ความทนทานระยะยาวอาจจำกัด
- แม้รองรับสภาพถนนสมบุกสมบันได้ระดับหนึ่ง แต่ด้วยโครงสร้างพื้นฐานของสกู๊ตเตอร์ อาจสึกหรอเร็วหากใช้งานหนักต่อเนื่อง
4. ข้อจำกัดในการติดตั้งอุปกรณ์เสริม
- ไม่เหมาะสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ขนาดใหญ่หรือหนัก เช่น ไฟไซเรน วิทยุสื่อสารภายนอก หรือกล่องอุปกรณ์เสริม
5. ราคาสูงกว่าสกู๊ตเตอร์ทั่วไป
- อาจเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาในแง่ของงบประมาณและความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในกลุ่มเดียวกัน
สรุปการใช้ Honda ADV-160 ในภารกิจของตำรวจสายตรวจมีความเหมาะสมในหลายบริบท โดยเฉพาะการลาดตระเวนในเมืองหรือพื้นที่ที่ต้องการความคล่องตัวสูง ทั้งนี้ ควรพิจารณาควบคู่กับลักษณะภารกิจเฉพาะทาง งบประมาณ และข้อจำกัดด้านอุปกรณ์ประกอบการตัดสินใจใช้งานอย่างเหมาะสม
ซึ่งภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ก็มีประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวตามเพจต่างๆ ที่แชร์ข้อมูลจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับงบประมาณการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น ข้อดีคือซื้อแพง ข้อเสียคือ คนซื้อไม่ได้ใช้คนใช้ไม่ได้ซื้อ และซื้อมาทำไมเยอะแยะ รถ CBR300 ตาม สภ.ต่างๆ ยังใช้ได้อยู่ครับ เพียงแค่เอางบที่จัดซื้อรถใหม่มาเป็นงบซ่อมบำรุงเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะก็ใช้ได้และประหยัดงบได้ตั้งเยอะครับ
คนจัดซื้อสรรหากับคนปฏิบัติงานจริง มันคนละคนกัน ผลเลยออกมาเป็นซะแบบนี้ทุกอย่างเลย คนปฏิบัติก็ทนรับสภาพไป
เอาไว้สแกน 4.0 พอได้ ไล่ตามรถต้องสงสัยพอเลย เห็นคนเค้ารีวิวว่าขับขี่สองคนได้ความเร็วประมาณ 110 เองครับ
สกบ. ก็กล้าจัดซื้อเนาะ ไม่นึกถึงความเป็นจริงเลย จัดหามาให้แต่ละอย่าง...ปวดกะหมอง
ไม่ต้องสงสัยใครแล้วไล่เลยครับ แค่คิดจะบิดไล่ความเร็วก็ไม่ขึ้นตามแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้เว็บไซต์สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เผยแพร่ประกาศเรื่อง ประกวดราคาซื้อโครงการรถจักรยานยนต์งานสายตรวจ พร้อมอุปกรณ์ (ทดแทน) ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ ในสถานีตำรวจทั่วประเทศ จำนวน 14,442 คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลางของงานซื้อในการประกวดราคาครั้งนี้ เป็นเงิน 1,884,007,040.00 บาท (หนึ่งพันแปดร้อยแปดสิบสี่ล้านเจ็ดพันสี่สิบบาทถ้วน)
...
บางช่วงบางตอนสำหรับร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference: TOR) หรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ และหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอรายการจัดซื้อรถจักรยานยนต์งานสายตรวจ พร้อมอุปกรณ์ (ทดแทน) ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจในสถานีตำรวจทั่วประเทศ จำนวน 14,442 คัน ได้ระบุความเป็นมาว่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีภารกิจในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจในสถานีตำรวจทั่วประเทศได้ขับขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจ พร้อมอุปกรณ์ออกปฏิบัติงานตามหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบเป็นประจำทุกๆ วัน ตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันรถจักรยานยนต์งานสายตรวจดังกล่าวมีอายุการใช้งานเกินกว่า 7 ปี ตามอายุการใช้งานรถจักรยานยนต์ที่กรมบัญชีกลางกำหนดไว้ และส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรม ไม่อยู่ในสภาพความพร้อมที่จะนำมาใช้ในการปฏิบัติงานสายตรวจตลอด 24 ชั่วโมง ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และการให้บริการช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด
...
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงตั้งโครงการจัดซื้อและตั้งคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567-2568 เพื่อจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจพร้อมอุปกรณ์ (ทดแทน) เพื่อไว้ใช้ราชการสำหรับงานสายตรวจของสถานีตำรวจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ รวม 1,484 สถานีทั่วประเทศ และรถจักรยานยนต์พร้อมอุปกรณ์ที่จะจัดซื้อจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีศูนย์บริการมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ยี่ห้อที่จะจัดซื้อให้ครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรองรับตามเงื่อนไขการรับประกัน และรองรับการซ่อมบำรุงต่อการใช้งานในอนาคต
โดยจะต้องมีศูนย์บริการเพื่อดำเนินการซ่อมบำรุงได้อย่างรวดเร็วทั่วถึงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และรถจักรยานยนต์ที่จะจัดซื้อทดแทนจะต้องมีอุปกรณ์เพิ่มเติมในการใช้งานและการปฏิบัติหน้าที่ โดยจะต้องติดตั้งสัญญาณไฟกระพริบ LED สีแดง บริเวณด้านหน้าและด้านหลังเพื่อแจ้งเตือนและเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีหมวกนิรภัยตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่กำหนดและตามสีและรูปแบบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด รวมทั้งต้องมีกล้องบันทึกภาพวิดีโอติดตัวผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หมวด 3 มาตรา 22 มาตรา 23 และมาตรา 26
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการได้รับจัดสรรงบประมาณงบดำเนินงาน ค่าวัสดุน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับงานสายตรวจของสถานีตำรวจทั่วประเทศมีจำกัด ไม่เพียงพอกับการปฏิบัติงานจริง และรถจักรยานยนต์สายตรวจคันเดิมมีขนาดเครื่องยนต์ 286 ซีซี ซึ่งมีขนาดใหญ่และสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่ารถจักรยานยนต์ขนาดทั่วไปที่นิยมใช้ทั่วไปในท้องตลาด คือ เครื่องยนต์ขนาด 150-160 ซีซี ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตรถจักรยานยนต์ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้มีขนาดเล็กลง มีกำลังและสมรรถนะสูงขึ้นและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ขับขี่ได้สะดวกมากขึ้น สามารถรองรับผู้ขับขี่และผู้นั่งซ้อนท้ายของการปฏิบัติงานสายตรวจได้
...
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้จัดทำโครงการจัดหารถจักรยานยนต์งานสายตรวจพร้อมอุปกรณ์ทดแทนรถจักรยานยนต์เดิมที่หมดอายุการใช้งาน และได้ตั้งคำของบประมาณประจำปีไว้และได้รับจัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567 - พ.ศ. 2568 เพื่อจัดซื้อรถจักรยานยนต์พร้อมอุปกรณ์ดังกล่าว.