อดีตคนขับรถ แฉ "ทิดแย้ม" ชอบเปย์สาวมานานแล้ว สมัยตัวเองเป็นนักเรียนทุกคนรู้ดี อ้างแฟนเคยโดนเรียกเข้าไปในกุฏิ แต่หนีออกมาได้

วันที่ 20 พ.ค. 68 คดีพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตตินฺธโร) หรือสมีแย้ม หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อายุ 70 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม และอดีตเจ้าคณะภาค 14 ยักยอกเงินวัด ตรวจสอบพบเส้นทางการโอนเงินไปให้ น.ส.อรัญญาวรรณ หรือเก็น วังทะพันธ์ อายุ 28 ปี สาวคนสนิทหลักร้อยล้าน ภายหลังตำรวจ บก.ปปป.นำกำลังจับกุมทั้ง 2 คน พร้อมนายเอกพจน์ ภูฆัง หรืออดีตพระมหาเอกพจน์ คนสนิทสมีแย้ม มีหน้าที่โอนเงินให้สีกาเก็นตามคำสั่ง ทั้ง 3 คนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ

ต่อมาพนักงานสอบสวนเค้นสอบพยานบุคคลให้การเบี่ยงเบนคดี จัดฉากจากยักยอกเงินเล่นพนันออนไลน์เป็นการกู้ยืมเงินกัน ขณะที่ตำรวจมีหลักฐานสเตตเมนต์การโอนเงินเชื่อมโยงจากวัดถึงปลายทางเว็บพนัน เร่งหาสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและหลักฐานเพิ่มเติม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับนายแจ็ค (นามสมมติ) อดีตคนขับรถนักเรียนโรงเรียนวัดไร่ขิง และยังเคยเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนวัดไร่ขิง เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ขณะที่ตนยังคงเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดไร่ขิง ตัวของทิดแย้ม ทุกคนในโรงเรียนจะเรียกกันว่ามหาแย้ม โดยทุกวันอาทิตย์นักเรียนทุกคนจะต้องไปเรียนพระพุทธศาสนาที่วัดไร่ขิง ซึ่งจะมีมหาแย้มเป็นคนสอน

พอหลังจากสอนพระพุทธศาสนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทิดแย้มมักจะเรียกเด็กนักเรียนผู้หญิงเข้าไปพูดคุยเป็นการส่วนตัว จากนั้นจะเริ่มจากการให้ของชิ้นเล็กชิ้นน้อย พอนักเรียนหญิงรับเสร็จก็จะมีการจับหัวบ้าง จับแก้ม ซึ่งในขณะนั้นนักเรียนทุกคนที่เรียนพุทธศาสนากันก็เริ่มตั้งคำถามว่าทำแบบนี้แล้วพระจะอาบัติหรือไม่ แต่ตอนนั้นคำตอบจากทิดแย้มคือ ตั้งแต่บวชเป็นพระมา ไม่เคยต้องอาบัติเลย

...

หลังจากที่ทิดแย้มเริ่มเจอนักเรียนที่ถูกใจ ก็จะเริ่มให้เงิน แล้วให้เข้าไปในกุฏิ ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เคยเกิดขึ้นกับแฟนเก่าของตน เนื่องจากแฟนเก่าของตนเป็นคนหน้าตาดี เคยถูกทิดแย้มเรียกเข้าไปในกุฏิอ้างว่าให้ไปช่วยงาน แต่สุดท้ายก็ถูกกระทำอนาจารจนต้องวิ่งหนีออกมา พอหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นแฟนเก่าของตนก็ไม่ได้ที่จะไปแจ้งความ เพราะยอมรับตามตรงว่า 30 ปีที่แล้ว โซเชียลไม่ได้เข้าถึงง่ายแบบนี้

ในตอนที่ตนเรียนอยู่โรงเรียนวัดไร่ขิง นักเรียนทุกคนในโรงเรียนจะรู้พฤติกรรมของทิดแย้มเป็นอย่างดี จนกระทั่งตนเรียนจบแล้วมาทำงานเป็นคนขับรถรับส่งนักเรียน ก็ยังคงมีนักเรียนที่โดยสารรถของตนมาเล่าให้ฟังว่าพฤติกรรมของทิดแย้มไม่เคยเปลี่ยนไป ขนาดที่ว่าเป็นถึงเจ้าอาวาสก็ยังมีการส่งเสียเลี้ยงดูเด็กนักเรียนที่หน้าตาดี แล้วเลี้ยงดูเยอะกว่าตอนเป็นมหาเสียอีก เยอะทั้งจำนวนคน และจำนวนเงินที่ให้

พอวันที่เป็นข่าวแล้วทราบว่าทิดแย้มมีการโอนเงินไปให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีการเลี้ยงดูกันมา สิ่งแรกที่ตนเองคิดเด็กผู้หญิงคนนั้นต้องเคยเป็นนักเรียนโรงเรียนวัดไร่ขิงอย่างแน่นอน แต่ไม่คิดว่าจะอายุน้อยขนาดนี้ คิดว่าคงอายุ 30 กว่าไปแล้ว เนื่องจากคิดว่าทิดแย้มอายุขนาดนี้แล้วคงหยุดพฤติกรรมเดิม

ที่ผ่านมาด้วยความที่ตนเองเป็นคนอำเภอสามพรานตั้งแต่เกิด ความศรัทธากับวัดไร่ขิงกับหลวงพ่อวัดไร่ขิง ตนมีให้อย่างเต็มใจ แต่กลับกันตัวของทิดแย้ม ตั้งแต่เรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดไร่ขิงจนกระทั่งทุกวันนี้ ไม่เคยมีความคิดที่จะยกมือไหว้เลย เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นคนมีพฤติกรรมยังไง หากถามว่าที่ผ่านมาทำไมถึงไม่มีใครกล้าแฉ ก็ต้องพูดตามตรงว่าการจะเข้าถึงตัวทิดแย้มไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากรอบตัวทิดแย้มจะเต็มไปด้วยลูกศิษย์ที่เป็นข้าราชการระดับสูง ขนาดวันที่จะถูกตำรวจบุกเข้าจับ ยังรู้ข่าวก่อนจึงเชิญเข้าไปมอบตัวก่อนได้เลย

ส่วนนางสาวเตย หรือที่เรียกกันว่าหมอเตย เท่าที่ตนเองทราบ ไม่มีใครรู้เลยว่าหมอเตยเป็นใครมาจากไหน และมาที่วัดได้ยังไง แต่มารู้อีกทีก็คือหมอเตยกลายเป็นคนที่คุมทุกอย่างภายในวัดไร่ขิง และสามารถเข้านอกออกในได้หมดทุกพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ไม่ใช่ว่าไม่แปลกใจว่าทำไมหมอเตยถึงมีอำนาจได้ขนาดนี้ จึงทำให้ทุกคนคิดว่าหมอเตยอาจจะกำความลับอะไรบางอย่างของทิดแย้มเอาไว้