ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายโกดังที่สมุทรสาคร บุกจับสินค้าปลอมทั้งแบรนด์เนม-แบรนด์ไทยชื่อดัง เกือบ 8 หมื่นชิ้น มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
วันที่ 19 พ.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ชุดจับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ., เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์สินค้า ได้ร่วมกันตรวจค้นในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นอาคารกักเก็บสินค้า ภายในพื้นที่ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จับกุม 2 ผู้ต้องหา คือ นายเจียเซียน สัญชาติจีน อายุ 27 ปี และ นายหาง สัญชาติจีน อายุ 19 ปี ดำเนินคดีในฐานความผิดมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม/เลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และหรือเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความใดๆ ในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือทำให้ปรากฏชื่อสินค้าเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272 พร้อมตรวจยึดของกลาง รวม 78,223 ชิ้น มูลค่าความเสียหายมากกว่า 52,307,283 บาท

...
ทั้งนี้ของกลางที่ตรวจยึดได้นั้น มีทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โลชั่นทาหน้าและตัว คลีนเซอร์ทำความสะอาดผิว ครีมถนอมผิวหน้า โลชั่นถนอมผิวกายเพื่อความงาม ถุงยางอนามัย วิตามินที่เป็นอาหารเสริม ครีมกันแดด อาหารเสริมโปรตีนชนิดผง เซรั่ม วิตามิน 73,817 ชิ้น, สินค้าประเภทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เคสโทรศัพท์ วิทยุสื่อสาร หลอดไฟ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยี่ห้อดัง 2,954 ชิ้น สินค้าแบรนด์เนม เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม แบรนด์ดังในไทย 1,452 ชิ้น อีกทั้งได้ตรวจยึดอุปกรณ์โทรศัพท์ เครื่องคอมพิวเตอร์มาตรวจสอบถึงเส้นทางการนำเข้าสินค้า บัญชีธนาคารผู้รับประโยชน์ เพื่อขยายผลต่อไปกว่า 12 เครื่อง
สืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้างเครือข่ายจำหน่ายสินค้าปลอมในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยสืบทราบว่ามีชาวจีนเป็นนายทุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งได้สืบสวนจนนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมหาศาล ที่เป็นสินค้าประเภทครีมบำรุงผิว โลชั่น อาหารปลอม รวมถึงสินค้าแฟชั่นของแบรนด์เนมที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ร่วมสืบสวนหาแหล่งกักเก็บสินค้า อาคารเก็บสินค้าที่ผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาคร นำกำลังเข้าค้นอาคารกักเก็บสินค้า ภายใน ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผลการตรวจค้นพบสินค้าปลอม ซึ่งกักเก็บสินค้าไว้ภายในบ้านและโกดัง โดยสินค้าปลอมที่ตรวจพบเป็นสินค้าอุปโภค บริโภค อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าแบรนด์เนมมากมายกว่า 78,223 ชิ้น มูลค่าความเสียหายมากกว่า 52,307,283 บาท
โดยการเข้าตรวจค้นจับกุม ได้มีเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์สินค้า มาร่วมตรวจค้นและยืนยันสินค้าว่าเป็นสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป โดยสืบทราบว่าเบื้องหลังการลักลอบจำหน่ายสินค้าปลอมเป็นนายทุนชาวจีน โดยใช้สถานที่เก็บสินค้าเป็นสถานที่ที่อยู่บริเวณชานเมือง เนื่องจากหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าสายตาและความสะดวกต่อการส่งสินค้าโดยมีการจ้างแรงงานชาวไทยเป็นผู้บรรจุสินค้าส่งกระจายไปทั่วประเทศ สอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ฝากเตือนภัย ปรากฏการณ์การระบาดของสินค้าปลอมในสังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภค บริโภค กำลังกลายเป็นปัญหาสาธารณสุขที่รุนแรงและใกล้ตัวอย่างยิ่ง ตามที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิด โดยพบว่าผลิตภัณฑ์ปลอมจำนวนมากมีการผสมสารอันตราย เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน และสเตียรอยด์ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อผิวหนัง ระบบภายใน และอาจสะสมจนเป็นอันตรายเรื้อรังในระยะยาว ทั้งนี้ความเสียหายไม่ได้จำกัดอยู่เพียงระดับบุคคลแต่ยังกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ ผ่านภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลและความสูญเสียด้านแรงงานในเชิงเศรษฐกิจ อีกทั้งสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของแบรนด์เนมปลอม ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่เครือข่ายผู้อยู่เบื้องหลังส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แทรกซึมผ่านระบบเศรษฐกิจและกฎหมายไทย ปฏิบัติการปราบปรามในครั้งนี้จึงเป็นการยกระดับความมั่นคงของประเทศ ควบคู่กับการปกป้องสุขภาพของประชาชน ซึ่งต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเชิงกฎหมาย การเฝ้าระวัง และการสร้างความรู้เท่าทันแก่ผู้บริโภคอย่างยั่งยืน
...
