คุมสอบเข้ม 2 ผู้ต้องสงสัย "ดีเจเตเต้" โดนอุ้ม นักข่าวพยายามถาม เจอปัดกล้องเกือบตกพื้น สังเกตที่แขนหนึ่งในผู้ต้องสงสัยมีรอยคล้ายถูกกัด พ่อไหว้ศาลขอให้เจอลูก

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 68 เวลา 23.06 น. เพจดัง "นักข่าวนอกจอ" ได้โพสต์รูปภาพ/คลิป พร้อมข้อความบรรยายว่า พ่อของ #หนุ่มกาฬสินธุ์ ขอความช่วยเหลือลูกชายที่ไปทำงานเป็นดีเจอยู่ที่ผับแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ถูกอุ้มหายไปเมื่อคืนตอนตี 3 ล่าสุดยังติดต่อไม่ได้ คาดมีเรื่องชู้สาว

ต่อมาตรวจสอบพบว่า ผู้สูญหายคือ นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ อายุ 33 ปี หรือ ดีเจเตเต้ โดยวงจรปิดสามารถจับภาพของ นายวราพงษ์ ขณะออกจากผับแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี หลังเลิกงาน แล้วถูกรถกระบะสีขาว และเก๋งสีดำ ขับตามมา ก่อนที่ดีเจเตเต้ จะส่งข้อความหาสาวคนสนิทรายหนึ่งว่า มีคนขับรถตามมา และเสียงสุดท้ายที่กล้องหน้ารถของดีเจเตเต้ บันทึกได้คือ เสียงผู้ชายปริศนาที่บังคับให้ลงมาจากรถ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

...

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 พ.ค. 68 ที่ห้องสอบสวนชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 คน คนแรกคือ นายสุทธา (สงวนนามสกุล)  และนายธนเดช (สงวนนามสกุล) มาสอบมาราธอนตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ พร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บดีเอ็นเอทั้งสองคนโดยละเอียด ทั้งน้ำลาย เศษในซอกเล็บ ร่องรอยตามร่างกาย ก่อนนำตัวนายสุทธา ขึ้นรถแล้วขับออกไปจากโรงพักทันที

ทั้งนี้มีรายงานว่า ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ได้นำตัวนายสุทธา และนายธนเดช 2 ผู้ต้องสงสัยว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของดีเจเตเต้มาสอบถาม เนื่องจาก นายสุทธา มีชื่อเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะคันที่ปรากฏในคลิปวันเกิดเหตุ ส่วน นายธนเดช ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายสุทธานั้น เป็นคนนำรถของนายสุทธามาใช้และเป็นผู้จ่ายค่างวดรถ

โดยหลังจากสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนเป็นเวลานานหลายชั่วโมง นายธนเดช มีอาการเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเข้าห้องน้ำ หลังเข้าห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยขณะกำลังเดินกลับเข้าในห้องสอบสวน สื่อมวลชนพยายามถามถึงความเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น นายธนเดช ได้เดินฝ่าวงล้อมผู้สื่อข่าวและใช้แขนปัดกล้องผู้สื่อข่าวจนเกือบตกลงพื้น ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวเข้าไปสงบสติอารมณ์ภายในห้องสอบสวน

อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตที่บริเวณแขนขวาของ นายธนเดช พบรอยคล้ายถูกกัดที่ข้อแขนขวา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้ว

ขณะที่เมื่อเวลา 22.30 น. วานนี้ (15 พ.ค.) คุณพ่อวิเชียร ขุนศรีจตุรงค์ พ่อของดีเจเตเต้ พร้อมด้วย ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ และทีมงานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังจากพบพนักงานสอบสวนแล้ว มานั่งตรงบันไดหน้า สภ.เมืองกาญจนบุรี แล้วจัดเตรียมธูป 9 ดอก ระหว่างนั้นทนายรณรงค์พูดว่า "เราใช้ทุกวิธีทางเพราะเราเป็นแค่คนธรรมดา" คุณพ่อวิเชียรพูดว่า "ถูกต้อง" แล้วเดินไปที่ศาลพระภูมิ ที่หน้า สภ.เมืองกาญจนบุรี

...

คุณพ่อวิเชียร ยกมือพนมพร้อมธูปในมือ กล่าวว่า "ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ขอให้พ่อได้พบลูก ภายในวันสองวันนี้ ขอให้ลูกมีชีวิตกลับมาอยู่กับพ่ออยู่กับแม่ ขอให้เจอในเร็ววันนี้พรุ่งนี้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลในสิ่งที่ข้าพเจ้าขอจงประสบความสำเร็จด้วยเถิด"

หลังจบการไหว้ขอพร ทางด้าน ทนายรณรงค์ ได้ฝากสื่อมวลชนช่วยดูแลคุณพ่อวิเชียรที่จะพักอยู่ที่กาญจนบุรี จนกว่าจะเจอดีเจเตเต้ และขอให้สื่อติดตามความคืบหน้าอีกทางหนึ่ง.