"อ.จตุรงค์" นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา รับเคยได้ยินข่าว "หลวงพ่อแย้มวัดไร่ขิง" ยืมเงินวัดแห่งหนึ่งที่ปทุมฯ แต่ไม่ได้ให้ เชื่อผู้ที่ให้ยืมมีถึงระดับกรรมการ มส.

จากกรณีมีการตรวจสอบพบ พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม หรือเจ้าคณะภาค 14 กระทำการทุจริตยักยอกเงินจากบัญชีธนาคารของวัดโอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว เพื่อนำไปเล่นพนันออนไลน์ กว่า 300 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในรายการเปิดปากกับภาคภูมิ ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 อ.จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา ได้แสดงความคิดเห็นหลังทราบข่าวว่า ยอมรับว่าช็อก ในฐานะที่เป็นแฟนคลับเจ้าอาวาสในเรื่องเกี่ยวกับการทำประโยชน์ด้านพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นโครงการหมู่บ้านศีล 5 ที่รับต่อยอดมาจากสมเด็จช่วง โรงพยาบาลวัดไร่ขิง ฯลฯ ผลงานเหล่านี้ทำให้เราศรัทธาท่าน นานๆ จะมีพระที่ผมไม่กล้าด่าออกทีวีครั้งแรกในชีวิต เพราะปกติผมจะจัดเต็ม 

อ.จตุรงค์ ยอมรับว่า พระอย่างหลวงพ่อแย้ม ทรงไม่ได้จะไปยืมเงินคนอื่น มีแต่จะให้ยืมมากกว่า เรียกว่าเป็นพระผู้ให้ แต่ในช่วงปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ในภาคของท่าน เคยได้ยินข่าวว่าท่านไปยืมเงินพระผู้ใหญ่ ตนยังมองว่าเป็นแค่ข่าวลือ เพราะงานวัดไร่ขิงก็จัดใหญ่ขนาดนั้น ซึ่งก็มีบางวัดที่ถูกยืม อย่างวัดโบสถ์ ปทุมธานี แต่ก็ไม่ได้ให้

ตนเข้าใจว่า จุดที่ทำให้พนักงานสอบสวนเข้ามาดูคดีนี้ คงเพราะไปยืมเงินพระผู้ใหญ่เยอะ ผมเชื่อว่าน่าจะมีถึงระดับกรรมการ มส. ที่ให้ยืม เพราะคนที่มาขอน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ก่อนที่จะมารายการก็ได้คุยกับลูกศิษย์ท่าน เขาก็บอกว่าให้ช่วยทวงความเป็นธรรมให้หลวงพ่อหน่อย ว่าพระระดับนี้จะมานั่งปั่นสลอตหรือ อีกทั้งหลวงพ่อแย้ม เป็นถึงเจ้าคณะภาค มีกิจนิมนต์ที่ต้องเดินทางตลอด ก็เลยมองไม่ออกว่าจะเอาเวลาที่ไหนไปนั่งเล่น แต่เราก็ต้องเคารพในกระบวนการของพนักงานสอบสวน และเชื่อว่าต้องมีคนในวัดหลวงพ่อแย้มที่เป็นคนชี้เป้าด้วย

...

ด้าน ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา หรือ มหาหมี รองประธานมูลนิธิกองทัพธรรม เผยถึงเส้นทางการเงินที่ถูกโอนจากบัญชีวัดเข้าบัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาส ก่อนถูกโอนไปยังผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเครือข่ายเว็บพนันว่า มองว่าเรื่องนี้เราเพิ่งทราบข้อเท็จจริง ความจริงเป็นอย่างไรก็ยังไม่ได้ถูกพิสูจน์ ในฐานะของนักกฎหมาย และรู้หลักพระธรรมวินัย เราจะพิจารณาได้อยู่ 2 เรื่อง หนึ่งคือ มีกระบวนการในการนำเงินวัดออกมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ และกระบวนการนี้ก็นำเงินที่ออกมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ไปทำผิดกฎหมาย ถ้าเป็นไปตามที่พนักงานสอบสวนยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจน ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เจ้าอาวาส คือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามกฎหมายสงฆ์ พนักงานสอบสวนจึงแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ชื้อ หรือ จัดการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบัง หรือ ทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงาปฏิบัติหรือละเว้นการปติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต"

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นว่า มีคณะกรรมการวัด หรือคณะบุคคลในการโอนเงินเข้าบัญชีท่าน ไปหาบุคคลภายนอก ซึ่งในกระบวนการดังกล่าว ถ้าข้อเท็จจริงเป็นแบบนั้น ผู้ที่ช่วยในการกระทำความผิดก็เป็นผู้สนับสนุน ยกเว้นแต่ว่าทั้งหลวงพ่อ และคณะกรรมการ จะมีหลักฐานมาพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่โอนกันนั้นไม่ได้นำไปกระทำความผิด

ที่มาจาก รายการเปิดปากกับภาคภูมิ