ลูกชาย "ยายนิล" เดือดรุมชก "นายเตี้ย" หน้าห้องควบคุมผู้ต้องหากลางโรงพัก เชื่อผู้ก่อเหตุวางแผนฆ่าแม่ไว้ล่วงหน้า

จากกรณีเหตุการณ์คดีสะเทือนขวัญ นายเจริญ ศรีจำรัส หรือ เตี้ย อายุ 55 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้างหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขานครศรีธรรมราช ได้ก่อเหตุลวงนางหนูนิล นิจภาพ หรือ ยายนิล อายุ 89 ปี ไปฆ่ารัดคอแล้วจับศพยัดใส่กระสอบ โยนทิ้งป่าละเมาะริมถนนสายเทิดพระเกียรติ ม.5 ต.ปากนคร อ.เมืองนครศรีธรรมราช ก่อนชิงทรัพย์ สร้อยทองหนัก 5 บาท แหวนทองคำ และเงินสด 1 หมื่นบาท รวมมูลค่าประมาณ 2.5 แสนบาท หลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา จนญาติออกตามหาและเจ้าหน้าที่เพิ่งพบศพเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 พ.ค. 2568 กระทั่งสามารถจับกุมนายเจริญ หรือ เตี้ย ผู้ต้องหารายนี้ได้ขณะกบดานบ้านญาติคนหนึ่งใน อ.เกาะสมุย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 14 พ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุวุ่นวายกลางโรงพัก สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่สอบปากคำ "นายเตี้ย" ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม "ยายนิล" เสร็จสิ้น ได้เกิดเหตุญาติของผู้เสียชีวิตพุ่งเข้าทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาถึงสองครั้งซ้อน ท่ามกลางความชุลมุนของเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เริ่มต้นขึ้นหลังจากตำรวจคุมตัวนายเตี้ยออกจากห้องสอบสวน เพื่อพากลับไปยังห้องควบคุมผู้ต้องหา ปรากฏว่าหลานเขยของยายนิลที่มายืนรออยู่หน้าห้องสอบสวน ได้พุ่งเข้าไปชกใบหน้าของนายเตี้ยเข้าอย่างจัง สร้างความตกตะลึงแก่เจ้าหน้าที่ ก่อนตำรวจจะรีบเข้าห้ามปรามและกันตัวผู้ต้องหาออกไปท่ามกลางเหตุการณ์วุ่นวาย

ขณะที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาเดินต่อไปยังห้องควบคุม ได้เกิดเหตุชุลมุนอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่พยายามกันช่างภาพออกจากแนวทางเดิน จนมีช่างภาพบางสำนักล้มลงไปกับพื้น ท่ามกลางความชุลมุนและเสียงตะโกนโกลาหล แม้เหตุการณ์จะไม่สงบดีนัก ตำรวจยังยินยอมให้ผู้ต้องหาออกมาให้สัมภาษณ์สั้นๆ บริเวณหน้าห้องควบคุม แต่ยังไม่ทันที่จะได้สอบถามใดๆ นายสุทร ขวัญทอง อายุ 48 ปี ลูกชายคนที่ 8 และ นายสายัณห์ ขวัญทอง อายุ 55 ปี ลูกชายคนที่ 6 ของผู้เสียชีวิต ก็พุ่งตัวเข้ามาชกหน้าผู้ต้องหาเต็มแรงต่อหน้าสื่อมวลชนอีกครั้ง ทำให้ตำรวจต้องรีบควบคุมสถานการณ์และนำตัวนายเตี้ยกลับเข้าห้องควบคุมทันที

...

ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว นายสุทร และ นายสายัณห์ เปิดใจว่า สิ่งที่ทำไปเป็นเพียงการแสดงความรู้สึกในฐานะลูกที่เสียแม่ไปอย่างอำมหิต เราอยากให้ตำรวจลองคิดมุมคนเสียญาติดูบ้าง ไม่ใช่แค่ปกป้องผู้ต้องหา ชกแค่นี้มันน้อยไปด้วยซ้ำ โดยทั้งสองยังยืนยันเชื่อว่านายเตี้ยวางแผนฆ่าแม่ไว้ล่วงหน้า เพราะเห็นแม่ใส่ทองมานาน และเลือกลงมือในวันที่สบโอกาส กระสอบที่ใช้ยัดศพยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย ไม่เชื่อว่าไม่ได้เตรียมการ

นายสุทร เล่าด้วยน้ำเสียงโกรธแค้นว่า แม่ไว้ใจนายเตี้ยมาก โทรให้พาไปซื้อของเป็นประจำ แต่กลับถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม มันเป็นฆาตกรอำมหิต ฆ่าแม่เสร็จก็ไปกินเหล้าได้ ยังมีหน้ามานั่งหัวเราะในห้องสอบสวนอีก มันไม่รู้สึกผิดอะไรเลย

สำหรับทรัพย์สินของผู้ตาย โดยเฉพาะทองคำที่ถูกนำไปขายบนเกาะสมุย จะประสานกับตำรวจเพื่อนำกลับคืน โดยพี่สาวของผู้ตายจะเป็นผู้ติดตามเรื่องทรัพย์สินทั้งหมด

ส่วนร่างของยายนิล ครอบครัวได้นำมาตั้งบำเพ็ญกุศลในศาลาบำเพ็ญกุศล วัดสวนหลวง ห่างจาก สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มีการตกแต่งหีบศพอย่างสวยงาม ครอบครัวลูกหลานได้ช่วยกันจัดเตรียมงาน

ขณะเดียวกันครอบครัวเผยหลังทราบการรับสารภาพของ นายเตี้ย ระบุว่า ไม่เชื่อการรับสารภาพเนื่องจากไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เช่น กระสอบที่ใส่ร่างของยายนิลมีสภาพใหม่ ไม่ได้เปื้อนอะไรมากนัก เชื่อว่าเป็นการเตรียมการมาก่อน รวมทั้งลักษณะการทำร้ายยายนิลพบว่าใบหน้ายายนิลเละเต็มไปด้วยโคลนมีโคลนในปากในจมูก สอดคล้องกับใบรับรองสาเหตุการตาย ระบุชัดเจนว่า "ไขสันหลังส่วนคอฉีกขาดจากกระดูกสันหลังบริเวณลำคอหัก" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการชันสูตรเพื่อระบุสาเหตุการตาย ส่วนรายงานการชันสูตรเชิงลึกฉบับเต็มจะถูกส่งให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี.