นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขานัน ถูกนายพรานยิงเสียชีวิต อ้างเห็นพุ่มไม้ไหวๆ นึกว่าเป็นหมูป่า ด้านเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ยังไม่ปักใจเชื่อ เผยขณะเกิดเหตุกำลังปฏิบัติหน้าที่ เดินลาดตระเวนรักษาแนวเขตอุทยานตามแผนฯ ป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ อีกทั้งยังมีไฟฉาย และเพิ่งผ่านพ้นคืนเพ็ญมาเพียง 1 คืน แสงจันทร์ยังสว่างพอที่จะมองเห็น อาจเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุเห็นเจ้าหน้าที่แล้วตกใจ เกรงว่าจะถูกจับกุมจากการล่าสัตว์ป่าในแนวเขตอุทยานฯ

เมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 พ.ต.ท.ศักดินันท์ ด้วงโยธา สว.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันเสียชีวิตในสวนยางพารา ทางขึ้นน้ำตกสุนันทา เขตอุทยานแห่งชาติเขานัน ม.4 ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย สังฆมิตกล ผกก.สภ.ท่าศาลา, พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ช่วยราชการ รอง ผกก.ป.สภ.ท่าศาลา, พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน), พ.ต.ท.สมชาย มวยดี รอง ผกก.สส. และกำลังตำรวจสืบสวน, แพทย์เวร รพ.ท่าศาลา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ ไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวนในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันทางขึ้นเขาลาดชัน เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อขึ้นไปด้วยความลำบาก ที่เกิดเหตุริมทางสวนยาง เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายกฤษศิริ ปิ่นประยูร อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 30 หมู่ 2 ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำแหน่งลูกจ้าง สังกัดอุทยานแห่งชาติเขานัน น้ำตกสุนันทา สภาพศพนอนหงายในชุดเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว กระสุนเบอร์ 12 เข้าศีรษะ 1 นัด ใกล้กันพบรอยกระสุนปืนที่ต้นยาง 4 – 5 รู จึงถ่ายภาพที่เกิดเหตุอย่างละเอียด

...

ส่วนคนก่อเหตุเป็นชาวบ้านในพื้นที่ สอบสวนทราบชื่อ นายมนัส กูลระวัง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/27 หมู่ 8 ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังเกิดเหตุยืนรอมอบตัวกับตำรวจในที่เกิดเหตุ พร้อมกับอาวุธปืนลูกซองยาว ไทยประดิษฐ์ ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 กระบอก

จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่าขณะเกิดเหตุ นายกฤษศิริ พร้อมพวกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขานัน ได้ร่วมออกลาดตระเวนในพื้นที่ และได้ยินเสียงปืนดังมาจากที่เกิดเหตุ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ขณะนั้น นายมนัส ฯ ได้ล่าหมูป่าโดยใช้วิธีผูกเปลนั่งห้าง และได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงไปในทิศทางที่ นายกฤษศิริ กำลังเดินอยู่ ซึ่งนายมนัส รับสารภาพว่ามองเห็นพุ่มไม้ไหวๆ นึกว่าเป็นหมูป่าจึงตัดสินใจยิงไป 1 นัด กระสุนพุ่งเจาะศีรษะจนเป็นเหตุให้นายกฤษศิริ เสียชีวิต

เบื้องต้นหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายมนัส พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังเกิดเหตุ นายมนัส กูลระวัง อายุ 37 ปี ได้ถูกคุมตัวไว้ได้ พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

เพื่อนสายตรวจแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ขณะเกิดเหตุเดินลาดตระเวนปฏิบัติหน้าที่รักษาแนวเขตอุทยานตามแผนปฏิบัติการป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ ทั้งชุดมี 3 นาย โดยนายกฤษศิริ เดินตรงกลาง เพื่อนเดินขนาบซ้ายขวา หลังจากได้ยินเสียงปืน นายกฤษศิริ ล้มลงเสียชีวิตทันที ส่วนผู้ก่อเหตุพบว่าขัดห้างอยู่บนต้นไม้ได้ถูกคุมตัวได้และเจ้าหน้าที่มารับตัว

ขณะที่นายมนัส ผู้ต้องหาอ้างว่า ขณะเกิดเหตุได้ขัดห้างทำที่พักบนต้นไม้ เพื่อยิงหมูป่าที่มีอยู่อย่างชุกชุม ขณะเกิดเหตุเข้าใจว่ามีหมูป่าเดินเข้ามาในแนวปืน จึงยิงเข้าใส่หลังสิ้นเสียงปืนจึงรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่

ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้ข้อมูลว่า ยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่เป็นหมูป่า เนื่องจากการเดินของเจ้าหน้าที่แตกต่างกับการเดินของหมูป่าอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีไฟฉาย และเพิ่งผ่านพ้นคืนเพ็ญมาเพียง 1 คืน แสงจันทร์ยังสว่างพอที่จะมองเห็น อาจเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุเห็นเจ้าหน้าที่แล้วตกใจ เกรงว่าจะถูกจับกุมจากการล่าสัตว์ป่าในแนวเขตอุทยานฯ จึงยิงเข้าใส่เพื่อเป็นการข่มขู่ แต่กระสุนถูกเจ้าหน้าที่ถึงแก่ความตาย ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งข้อสงสัยให้พนักงานสอบสวนทราบแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นเป็นผู้ที่มีทักษะในการลาดตระเวน เนื่องจากเป็นทหารเก่า ถือเป็นการเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่จะได้ดำเนินการไปตามขั้นตอน ขณะนี้ได้รายงานด่วนไปยังอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติแล้ว.