"อัยการดาว" แจ้งตำรวจไซเบอร์ แฉแก๊งคอลเซ็นเตอร์แสบ หลอกแม่โอนเงิน 5 วัน สูญกว่า 760,000 บาท ลั่นจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดถึงที่สุด

วันที่ 12 พ.ค. 68 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ หรือ "อัยการดาว" อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด ได้รับมอบอำนาจจากมารดาเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.2 ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มาหลอกลวงมารดา วัยเกือบ 80 ปี จนสูญเงินไปกว่า 7 แสนบาท

น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี "แฮรี่" อ้างตัวว่าเป็นนักธุรกิจชาวเวียดนามที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษ ใช้คำพูดหว่านล้อมให้คุณแม่สมัครแอปพลิเคชันวอทแอป เข้ามาพูดคุยด้วยถ้อยคำสุภาพจนคุณแม่เชื่อใจ ก่อนใช้กลอุบายอ้างว่ามีพัสดุส่งของมาให้ แต่น้ำหนักเกิน และติดเงื่อนไขอื่นๆ จนคุณแม่หลงกลโอนเงินในบัญชีแรกที่ใช้อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งจนเกือบหมดบัญชีจำนวนเกือบ 1 แสนบาท

จากนั้นหลอกให้คุณแม่ไปถอนเงินจากบัญชีเงินฝากอีกบัญชีมาฝากผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร โดยให้โอนผ่านบัญชีม้า รวมแล้วนับสิบครั้งในเวลาเพียง 5 วัน รวมยอดเงิน 760,000 บาท กระทั่งตนทราบเรื่องจึงมาแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อเอาผิดกับคนร้าย ในความผิดข้อหา "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ และฉ้อโกงประชาชน" โดยเร่งทำการอายัดบัญชีแล้ว ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดถึงที่สุด

น.ส.สุภาภรณ์กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ตนพบปัญหาในการติดตามคดีในระบบ www.thaipoliceonline.go.th เพราะคุณแม่มีการโอนเงินทั้งผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งและฝากผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร โดยในฝากผ่านเคาน์เตอร์ ทางธนาคารจะไม่สามารถออกเลขเคสไอดี ที่จะต้องคีย์เลขดังกล่าวก่อนจะเข้าสู่ระบบ www.thaipoliceonline.go.th ทำให้ไม่สามารถติดตามคดีทางออนไลน์ได้

...

อยากให้ทางธนาคารช่วยให้ความคุ้มครองประชาชนการออกเลขมันไม่ได้มีผลเสียหายอะไรกับทางธนาคาร เพราะถ้าผู้เสียหายมาแจ้งความมีการยืนยันความเสียหายแล้ว มีพยานเอกสารวัตถุพยานครบทางตำรวจอายัดทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมาย แต่กรณีนี้ติดปัญหาที่แค่ต้องการเลขเคสไอดีในการติดตามเท่านั้น.