ตำรวจท่องเที่ยวรวบหนุ่มรัสเซียพฤติกรรมสุดแสบ แอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวบนเกาะพะงัน ยึดของกลางได้เพียบ รับสารภาพ “แอบกลืนยางกัญชาลงท้องจากต่างประเทศ เพื่อลักลอบผ่านด่านศุลกากร เมื่อมาถึงเกาะพะงัน จึงได้ทำการถ่ายออกมาเพื่อจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. สั่งกำชับเร่งแก้ไขกวาดล้างปราบปรามชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในแหล่งท่องเที่ยว พร้อมมอบหมายให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ทท.5 กก.2 ด.ต.สายัณห์ สุทธิมาศ ผบ.หมู่ ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 บูรณาการร่วมกับ ตร.สส. สภ.เกาะพะงัน ฝ่ายปกครองเกาะพะงัน นปภ.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี
จับกุมนายเดนิส บิชุก Mr.Denis Bichuk อายุ 36 ปี สัญชาติรัสเซีย ยืนสะพายกระเป๋าอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ บ้านมะเดื่อหวาน หมู่ 3 ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อนายเดนิสเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงอาการมีพิรุธ เหงื่อไหลเต็มใบหน้า และพูดจาวกวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอตรวจค้นในกระเป๋าสะพาย พบยาเสพติด (โคเคน) ชนิดผงสีขาว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก จำนวน 8.82 กรัม เห็ดขี้ควาย จำนวน 13.56 กรัม ยางกัญชาหรือ Hashish จำนวน 26 ก้อน น้ำหนัก 415.72 กรัม จึงได้นำตัวไปสอบปากคำที่หน่วยบริการตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน
...
เบื้องต้น นายเดนิส บิชุก Mr.Denis Bichuk หนุ่มรัสเซีย ให้การยอมรับว่าสารเหนียวสีเข้มบรรจุอยู่ในถุงยางอนามัยจำนวนหลายก้อนคือ HASHISH หรือยางกัญชา ซึ่งตนได้ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยใช้วิธีการกลืนลงไปในท้องเพื่อลักลอบผ่านด่านศุลกากร เมื่อมาถึงเกาะพะงัน จึงได้ทำการถ่ายออกมาเพื่อนำมาขายต่อให้แก่นักท่องเที่ยว
โดยนายเดนิสอ้างว่า HASHISH หรือยางกัญชามีราคาที่สูงและทำกำไรได้จำนวนมาก ในส่วนของโคเคนนั้น ตนได้ซื้อมาจากชายชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ซึ่งขายให้ตนในราคา 4,000 บาทต่อ 1 กรัม บนเกาะพะงัน ส่วนเห็ดขี้ควายก็ได้ซื้อมาจากคนรู้จัก
ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายเดนิส บิชุก “มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคเคน ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย “มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 เห็ดขี้ควาย ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคเคน ในส่วนของยางกัญชาหรือ HASHISH แจ้งข้อกล่าวหาครอบครองซึ่งสมุนไพรควบคุมเกินกว่าจำนวนหรือปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามมาตรา 45 (1) ตาม พรบ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542” นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.