ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ รวบแล้ว ต้นกล้า คนขับเก๋งซิ่งชนยายรอใส่บาตรเสียชีวิต อ้างเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ได้ขับแข่งกันมากับรถกระบะ ไม่ได้รู้จักกัน ส่วนที่หนีเพราะตกใจมาก
จากกรณีโซเชียลเผยแพร่คลิปรถยนต์เก๋งกับรถกระบะขับแข่งกันมาบนถนน พุ่งชนคุณยายที่กำลังรอใส่บาตรพระตอนเช้าดับสลด โดยมีเพื่อนมารับขนของหนีหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาลงโทษตามกฎหมาย เหตุเกิดวันที่ 09/04/2568 เวลา 06.17 น. ถนนเส้นตะเคียนเลื่อน จ.นครสวรรค์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายภานุพงศ์ วันมา หรือต้นกล้า ผู้ต้องหาซิ่งรถชนยายดับ ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พรชัย ขุนพิลึกลือเดช รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ นำทีมงานชุดสืบสวน ติดตามจับกุมตัวนายภานุพงศ์ วันมา หรือต้นกล้า ได้ที่พื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต จังหวัดปทุมธานี
ต่อมาเวลา 09.00 น. ของวันนี้ (24 เม.ย.68) พ.ต.ท.พรชัย ขุนพิลึกลือเดช รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมทีมงานชุดสืบสวนได้นำตัวนายภานุพงศ์ วันมา หรือต้นกล้า มาถึงที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์
...
ซึ่งทางนายภานุพงศ์ วันมา หรือต้นกล้า ยอมรับผิดทุกกรณี พร้อมทั้งเผยว่า ตนเองยอมรับว่าหลังจากที่ชนยายแล้วตนเองตกใจมาก ประกอบกับแฟนเจ็บหนัก จึงได้นำแฟนไปทำการรักษาตัวก่อน ที่ยังไม่ติดต่อมอบตัว เพราะว่าตนเองมีคดีเก่าเรื่องยาเสพติดอยู่จึงกลัว
ส่วนเรื่องที่ว่าผมแข่งกันมา ผมบอกเลยว่าผมไม่รู้จักกัน ส่วนที่ว่าขับไปชนยายนั้น ผมพยายามหักหลบแล้วแต่มันไวมาก จึงหลบไม่พ้น มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ผมก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ สำหรับเรื่องการเยียวยาญาติผู้เสียชีวิต จะให้ทางครอบครัวผมเข้าไปคุยกับทางญาติของยายรัตน์
ส่วนแม่ของต้นกล้าไม่พร้อมที่จะพูดอะไร แต่บอกว่า ได้ไปขอโทษทางญาติของยายรัตน์ในวันที่สวดพระอภิธรรมแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายภานุพงศ์ วันมา หรือ ต้นกล้า อายุ 30 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ ที่บริเวณถนนใต้ทางด่วน ม.1 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
โดยจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ จ.224/2568 12 เมษายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย หนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและไม่แสดงตัวแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น" จึงจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป