รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วยอธิบดี DSI แถลงจับกุมกรรมการไชน่า เรลเวย์ No.10 ในข้อหานอมินี พร้อมเร่งติดตามตัวอีก 3 คนไทย ปมตึก สตง.ถล่ม หลังพบหลักฐานที่เชื่อได้ว่าคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว

วันที่ 19 เมษายน 2568 จากกรณีแฟนเพจ DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ โพสต์ข้อความว่า "ด่วน!!! DSI จับกรรมการไชน่า เรลเวย์ No.10 ข้อหานอมินีแล้ว กำลังนำตัวมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ" ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : ด่วน DSI เผยจับกรรมการไชน่า เรลเวย์ No.10 ข้อหานอมินีแล้ว)

ล่าสุด เมื่อเวลา 19.20 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกรรมการไชน่า เรลเวย์ No.10 ข้อหานอมินี

สืบเนื่องจาก พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ได้มอบหมายให้นายวิทวัส สุคันธรส ผอ.ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว และนายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผอ.ส่วนสืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว นำหมายจับศาลอาญา ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 37 และมาตรา 41 เข้าจับกุมนายชวนหลิง จาง ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยจากการจับกุมพบว่า นายชวนหลิง จาง สวมเสื้อโปโลคอปกสีเทา กางเกงสแล็คขายาวสีดำ สวมแว่นสายตา แมสก์และหมวกสีขาว ขณะรับฟังรายละเอียดพฤติการณ์แห่งคดีจากเจ้าหน้าที่

...

ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยฯ ได้ควบคุมตัวนายชวนหลิง จาง ไปยังอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อดำเนินการส่งตัวต่อให้พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดี ทำการรับตัว แจ้งข้อกล่าวหา พิมพ์ลายนิ้วมือ สอบสวนต่อหน้าทนายความ โดยพนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัว 48 ชม. ส่วนถ้ามีการยื่นประกันตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน ก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณา โดยหลักประกันใช้ 3 ใน 4 ของข้อบังคับประธานศาลฎีกา ซึ่งหากพนักงานสอบสวนอนุญาตประกันชั่วคราว จากนี้ผู้ต้องหาก็สามารถนำพยานหลักฐานมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า การออกหมายจับของดีเอสไอวันนี้ ที่ได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ในข้อหาเกี่ยวกับเป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจต้องห้าม เพราะพบหลักฐานน่าเชื่อได้ว่าบริษัทไชน่าเรลเวย์ฯ ให้กรรมการคนไทย 3 คน ซึ่งตรวจสอบแล้วก็ไม่ได้มีฐานะทางการเงิน มาถือหุ้นแทนคนต่างด้าว จากการพบหลักฐานทางการเงินกว่า 2,000 ล้านบาทที่กู้ยืมจากกรรมการคนจีน

ส่วนอีกคดีเกี่ยวกับการฮั้วประมูลนั้น ดีเอสไอกำลังเร่งดำเนินการอย่างรอบคอบ เพราะหากเป็นนอมินีของบุคคลต่างด้าวอำพรางมาร่วมทำสัญญากับ สตง. ก็จะเข้าข่ายความผิดมาตรา 7 เรื่องการใช้อุบายหรือกระทำด้วยวิธีอื่นใดเพื่อให้ได้งาน เป็นความผิดเกี่ยวกับการฮั้วประมูล ซึ่งดีเอสไอกำลังสอบสวนอยู่ว่าเข้าข่ายการใช้อุบายหรือไม่ ส่วนการสอบปากคำวิศวกรผู้ควบคุมงาน ส่วนใหญ่ก็จะปฏิเสธอ้างว่ามีการปลอมลายเซ็น

ส่วนคดีที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ตำรวจตั้งเรื่องไว้เป็นเรื่องกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแล้ว ส่วนจะมีเจตนาทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือไม่ ก็ถือเป็นอีกส่วนที่พนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้บริษัทไชน่าเรลเวย์ฯ ถือเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง จึงอยากให้ทางบริษัทฯ เอาหลักฐานมาดู เพื่อหาคำตอบว่าทำไมตึก สตง.จึงถล่มทำให้มีคนตายจำนวนมาก ซึ่งเราพร้อมจะรับฟังข้อมูลทั้งหมด

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเริ่มสอบปากคำ หลังจากที่ล่ามและทนายความของเจ้าตัวมาถึง ส่วนกรรมการคนไทยอีก 3 คนที่ถูกออกหมายจับ เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัว สำหรับจำนวนหุ้นที่กรรมการทั้ง 3 คนถืออยู่รวมกัน 51 เปอร์เซ็นต์นั้น ดีเอสไอมีพยานหลักฐานน่าเชื่อได้ว่าไม่ได้ถือหุ้นจริง แต่เป็นการถือหุ้นอำพรางแทนคนต่างด้าว จึงได้ออกหมายจับมาดำเนินคดี

ขณะที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้ข้อมูลว่าจากการตรวจสอบวีซ่าของเจ้าตัวยังไม่หมดอายุ มีการเข้าออกประเทศไทยอยู่เป็นระยะๆ.