ตำรวจรวบตัวหนุ่มยิงหัวแฟนสาวเสียชีวิตคาบ้าน หลังมีปากเสียงเรื่องมีผู้หญิงทักไลน์มาหา ด้านผู้ก่อเหตุอ้างโมโห ขาดสติเพราะฤทธิ์ยาประจำตัว
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 เม.ย. 2568 ร.ต.ท.สัขรกร กุมผัน รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยประชาอุทิศ 91/2 แขวงและเขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.จุมพล สินศิริพงษ์ ผกก.สน.ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ทุ่งครุ แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาฯ มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสูง 3 ชั้น ในห้องนอนชั้น 2 พบศพ น.ส.ศศภัทร อายุ 35 ปี ชาว จ.อุตรดิตถ์ สภาพนอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีเลือดหมูลายช้าง มีบาดแผลถูกกระสุนปืนขนาด .38 มม. ที่ขมับขวา 1 นัด กระสุนฝังใน ใกล้กันพบอาวุธปืนสั้นแบบลูกโม่ขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ทุ่งครุ สามารถควบคุมตัวได้ที่หน้าบ้านขณะกำลังจะขับรถหลบหนี เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ห่างจาก สน.ทุ่งครุ ไม่ถึง 100 เมตร จึงใช้เวลาถึงที่เกิดเหตุไม่ถึง 2 นาที จากนั้นนำตัวขึ้นไปตรวจค้นในห้องพักพบใบ ป.4 ชื่อภรรยาเก่าของนายเทวันทร์ครอบครองอาวุธปืน 4 ใบ แต่พบเพียงอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ
...
จากการสอบสวน นายเทวันทร์ ให้การว่า แต่ก่อนตนเป็นช่างทำทอง ต่อมาเลิกทำแล้วมาเปิดร้านขายไอศกรีมอยู่ในตลาดกรุงกลาง ติดกับ สน.ทุ่งครุ รู้จักกับ น.ส.ศศภัทร ได้ประมาณกลางปี 67 ขณะไปเที่ยวบาร์ญี่ปุ่น ในซอยธนิยะ สีลม จึงเกิดชอบพอกัน น.ส.ศศภัทร อยากเลิกทำงานกลางคืน ตนจึงชวนมาอยู่ที่บ้าน ใช้ชีวิตฉันสามีภรรยา ต่อมาแฟนสาวบอกว่าตั้งท้อง ตนดีใจมาก พาไปฝากท้องที่โรงพยาบาล ช่วงเดือน ธ.ค. 67 ขณะที่อยู่ด้วยกันก็มีปากเสียงกันบ้าง แต่ไม่รุนแรง

จนกระทั่งต้นเดือน แฟนสาวได้หายออกจากบ้านไป 1 อาทิตย์ ไม่สามารถติดต่อได้เลย แล้วแฟนสาวก็กลับมาหา ทำให้ตนคิดมากว่าแฟนจะกลับไปทำงานแบบเดิม กระทั่งก่อนเกิดเหตุตนนั่งทำความสะอาดปืน บังเอิญมีผู้หญิงส่งข้อความทางไลน์มาหาตน แฟนสาวเห็นจึงเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง แล้วตนก็เกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนจ่อยิงขมับแฟนสาวดังกล่าว รู้สึกเสียใจที่คิดเร็วไปจนต้องเสียทั้งเมียและลูกไปพร้อมกัน
ด้าน นายวัชระ อายุ 54 ปี วิน จยย. เล่าว่า ตนเองขี่ จยย. ไปส่งผู้โดยสารมา เห็นรถตำรวจวิ่งผ่านจึงขับรถตาม เห็นผู้ก่อเหตุถูกใส่กุญแจมือนั่งหน้าบ้านตนจึงไปนั่งคุย โดยผู้ต้องหาขอน้ำกินกับบุหรี่สูบ ตนจึงหาให้ โดยผู้ก่อเหตุพูดว่า หมดๆ กันชีวิต นอกจากนี้ทราบว่า ผู้ก่อเหตุทานยาประจำตัวไปจำนวนหนึ่ง ในช่วงก่อนเกิดเหตุ ฝ่ายชายทำความสะอาดอาวุธปืนอยู่ แล้วมีไลน์ผู้หญิงเข้ามา ก็เลยเกิดการโต้เถียงกัน จนเกิดเหตุลั่นไกยิงดังกล่าว ที่ผ่านมาทั้ง 2 คน ไม่ได้ทะเลาะกันบ่อยและหนักขนาดนี้ ฝ่ายชายเองเป็นคนรูปหล่อทำให้มีหญิงสาวมาติดพันเยอะ ผู้ก่อเหตุกับคนตายคบหากันมาประมาณ 4 เดือน บ้านหลังนี้อยู่กันแค่ 2 คน คนก่อเหตุมียาทานประจำ

ด้าน ประธานหมู่บ้าน อายุ 50 ปี ได้เล่าว่า ตอนที่ได้ยินเสียงปืน ตนเองคิดว่าหม้อแปลงระเบิด สักพักประมาณ 10 นาที ก็เริ่มมีตำรวจเข้ามา จึงเดินออกไปดู ก็พบกับผู้ก่อเหตุถูกใส่กุญแจมืออยู่หน้าบ้านแล้ว
ในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนแจ้งเหตุดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง ช่วงก่อนได้ยินเสียงปืน ตนเองไม่ได้ยินเสียงอะไร เพราะว่านั่งอยู่ด้านในบ้าน ในส่วนผู้ตายเข้ามาพักอาศัยในบ้านหลังเกิดเหตุได้ประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งผู้ก่อเหตุเองเป็นชายหน้าตาดี มักเปลี่ยนผู้หญิงบ่อย แต่เท่าที่ตนเองเห็นทั้ง 2 คน ก็รักกันดี ฝ่ายชายมักไปส่งผู้หญิงทำงานทุกวัน นิสัยฝ่ายชายเป็นคนคุยสุภาพ พูดจาดี โดยบอกว่า ตนเองมีโรคประจำตัว ต้องกินยาเป็นประจำ ในส่วนสาเหตุที่ทำลงไป ในส่วนพี่ชายของผู้ก่อเหตุนั่น เป็นนายดาบตำรวจจราจร สน.ทุ่งครุ ตนเองเคยเห็นนานๆ มาที.