แม่สาวขอนแก่นวัย 30 ปี เตรียมเดินทางรับศพลูกไปทำพิธี เผยก่อนหน้านี้ ลูกเคยส่งภาพถูกทำร้ายร่างกายให้ดู บอกถ้าถูกฆ่า ก็เป็นฝีมือของแฟนหนุ่ม

จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุพบศพ น.ส.พราวพิลาศ พละดร อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท 39 ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ ประตูห้องไม่ได้ล็อก แอร์ยังเปิดอยู่ สภาพศพอยู่ภายในห้องน้ำ ถูกห่อด้วยผ้าสองชั้น บริเวณศีรษะมีร่องรอยบาดแผลและคราบเลือดจำนวนมาก ทรัพย์สินบางส่วน เช่น กระเป๋าแบรนด์เนมและนาฬิกาหรู ได้สูญหายไป

เบื้องต้นเพื่อนผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่า MR. Daniel แฟนหนุ่มชาวสิงคโปร์ของผู้เสียชีวิต มักมีปากเสียงและลงมือทำร้ายร่างกายกันบ่อยครั้ง โดยข้อมูลจากฝ่ายอาคารของคอนโดระบุว่า MR. Daniel ได้ออกจากคอนโดไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (พบศพหญิงวัย 30 ปี เสียชีวิตในคอนโดฯ มีผ้าปูเตียงเปื้อนเลือดห่อปิดร่าง)

ล่าสุดวันที่ 27 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านแห่งหนึ่งใน ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น บ้านของนางสาวพราวพิลาศ พละดร อายุ 30 ปี ผู้เสียชีวิต พบว่าบ้านปิดเงียบ สอบถามกับเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เผยว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของบิดามารดาของผู้ตาย ซึ่งบิดาเป็นข้าราชการทหารแต่เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ที่บ้านจึงเหลือเพียงมารดากับลูกสาว ซึ่งก็คือผู้ตาย แต่ลูกสาวไปทำงานที่อื่นและมีสามีเป็นชาวสิงคโปร์ นานๆ จะกลับมาเยี่ยมบ้าน และที่ปิดบ้านเงียบ เชื่อว่ามารดาน่าจะทราบเรื่องที่ลูกสาวเสียชีวิต จึงเดินทางไปรับศพลูกสาวที่ กทม.

...

ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์หามารดาของผู้ตาย กล่าวว่า ติดต่อลูกสาวไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา จึงบอกให้เพื่อนของลูกสาวตามหา จนไปพบว่าลูกสาวเสียชีวิตในห้องน้ำภายในคอนโดที่พักดังกล่าว

หลังบิดาเสียชีวิต ลูกสาวไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ จนได้สามีชาวสิงคโปร์ ซึ่งก็คือ MR. Daniel คบหากัน จากนั้นลูกสาวได้เดินทางกลับมาอยู่ที่ประเทศไทย แฟนหนุ่มก็ตามกลับมาอยู่และทำงานใน กทม.เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ที่ผ่านมาทราบว่าลูกสาวกับแฟนหนุ่มมีปัญหากันมาตลอด และลูกสาวก็จะถูกทำร้ายร่างกายตลอด ลูกสาวจะส่งภาพถ่ายรอยเขียวช้ำมาให้แม่ดู พร้อมกับบอกว่า ถ้าติดต่อไม่ได้หรือหายตัวไปเกิน 2 วัน และถ้าถูกฆ่าตาย ก็เป็นฝีมือของแฟนหนุ่มรายนี้

ทั้งยังบอกอีกว่า ก่อนที่จะรู้ว่าลูกสาวตาย ตนตกบันได แต่ไม่คิดว่าจะเป็นลางบอกเหตุร้าย คิดเพียงว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุทั่วไป แต่พอทราบข่าวจากเพื่อนและจากตำรวจว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว จึงคิดได้ว่า การตกบันไดคือลางร้ายที่ลูกสาวถูกฆาตกรรม

ซึ่งขณะนี้ตนเดินทางกลับมาหาญาติพี่น้องที่จังหวัดลพบุรี เพื่อให้ญาติพาไปรับศพลูกสาวแล้วก็จะทำพิธีทางศาสนาให้เรียบร้อยที่วัดใน กทม. จากนั้นจะนำเถ้ากระดูกลูกสาวกลับไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่บ้านในอำเภอน้ำพอง ในส่วนของแฟนหนุ่มของลูกสาวนั้น ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นคนลงมือทำร้ายลูกสาวตนจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป.