กระบะขนแรงงานเถื่อนมาเต็มคัน เจอเจ้าหน้าที่รีบซิ่งหนี ก่อนทิ้งรถข้างทางวิ่งหนีเข้าป่า ที่กาญจนบุรี ปล่อยแรงงานเมียนมาถูกจับ 17 คน นั่งซุกตัวอัดแน่นเต็มท้ายรถ
จากกรณี พันเอก ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พร้อม พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี บูรณาการนำกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกสังกัดเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดกฎหมายทุกชนิดตามนโยบายของรัฐบาล ลงพื้นที่ปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด
ต่อมาเวลา 00.30 น. วันที่ 21 มี.ค. 68 สายข่าวรายงานว่า จะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก ด้วยการใช้รถกระบะคอกยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียนราชบุรี เป็นพาหนะ
กระทั่งเวลา 02.00 น. พันเอก ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พร้อม พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง ขับมาจากทางด้านบ้านสเนห์พ่อง ต.ไล่โว่ จากนั้นเลี้ยวเข้าสู่ถนนสาย 323 มุ่งหน้าไปทางด้าน อ.ทองผาภูมิ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นจึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณให้คนขับหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น แต่คนขับไม่ยอมพร้อมเร่งเครื่องหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปอย่างกระชั้นชิด
คนขับเห็นท่าว่าจะหนีไม่พ้นจึงเลี้ยวเข้าไปภายในป่าริมห้วยใกล้กับรีสอร์ตชื่อดังแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ท้องที่หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เมื่อไปถึงที่เปลี่ยว คนขับได้เปิดประตูแล้วอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ได้พยายามไล่ติดตามก็ไม่ทัน เนื่องจากคนขับมีความชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี
...
จากการตรวจค้นภายในรถยนต์กระบะคันดังกล่าวพบแรงงานต่างด้าวนั่งแออัดกันมาเต็มคันรถทั้งบริเวณกระบะท้ายและห้องผู้โดยสาร รวมจำนวน 17 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 14 คน และนอกจากนี้ยังมีผู้ติดตามซึ่งเป็นลูกหลานของแรงงานมาด้วยอีก จำนวน 6 คน อายุน้อยสุดเพียงแค่ 1 ขวบเท่านั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้อีกทั้งไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวแรงงานทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.สังขละบุรี
กลุ่มผู้ต้องหาให้การผ่านล่ามว่า พวกตนหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการเดินเท้าข้ามชายแดนมาตามช่องทางธรรมชาติ โดยมีชาวเมียนมาด้วยกันนำพาเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อหลบด่านตรวจ เมื่อมาถึงจุดนัดหมายช่องทางบ้านสเนห์พ่อง มีรถยนต์คันดังกล่าวมารอรับอยู่แล้ว โดยพวกตนต้องจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าที่เป็นชาวเมียนมาด้วยกันคนละ 10,000 บาท จะจ่ายให้ก็เมื่อไปถึงปลายทาง ระหว่างเดินทางไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทยก็มาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน
หลังจากกลุ่มผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ในข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน "เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต" ส่วนรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นพาหนะเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนเพื่อขยายผลหาตัวผู้ครอบครอง หากพบมีส่วนเกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป