ตำรวจสิงห์บุรี เตรียมถอดคลิป หาช่องเอาผิดแอดมินเพจดัง ไลฟ์สดกดดันนายดาบขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็ว ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว ยันนั่งยิงความเร็ว ยังได้ในส่วนของคดีอื่นๆ ด้วย ขณะที่ชาวบ้านบ่นอุบ ด่านพรหมบุรี เบาๆ หน่อย หลังคนมาทำบุญบ่นให้ฟัง เสียความรู้สึก ยังไม่ทันจะถึงวัดอัมพวัน โดนปรับแล้ว 500-1,000 แถมช่วงเช้า ทำรถติดยาว 3-4 กิโล

จากกรณี ด.ต.ศุภมิตร พวงประเสริฐ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (จร.) สภ.พรหมบุรี อายุ 49 ปี กำลังปฏิบัติหน้าที่ใช้กล้องตรวจจับความเร็วสำหรับรถที่ขับในอัตราความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อยู่ที่เกาะกลางถนน ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อยู่นั้น ได้มีแอดมินของเพจ “อย่าหาทำ” ใส่เสื้อระบุข้อความว่า สมาคมนักรบด่านเถื่อน ทราบชื่อแอดมินต่อมา คือ นายวราภรณ์ หรือ แจ็ค แซ่ล้อ พร้อมพวกรวม 3 คน ได้เข้ามาไลฟ์สด ตั้งกล้องถ่ายคลิปใกล้ ด.ต.ศุภมิตรฯ พร้อมด้วยคำพูดยั่วยุต่างๆ นานา เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ในขณะที่ ด.ต.ศุภมิตรฯ นิ่งเงียบ ใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง ต่อมา พ.ต.ท.ภูษิต ก้อนทอง หัวหน้าชุดงานจราจร ได้ดูคลิปไลฟ์สดอยู่ในขณะนั้น สังเกตเห็น ด.ต.ศุภมิตรฯ เริ่มมีอาการแขนข้างขวาอ่อนแรง และไม่ดูกล้องตรวจจับความเร็ว เลยรีบโทรหารถพยาบาล 1669 พร้อมสั่งลูกน้องให้ไปช่วย ด.ต.ศุภมิตร เพื่อนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งต่อจากนั้น ด.ต.ศุภมิตร ได้ทรุดล้มลงมีอาการชักเกร็ง รวม 2 ครั้ง ไม่นานรถพยาบาลก็ได้นำตัว ด.ต.ศุภมิตร ส่งโรงพยาบาลทันที ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่จุดตรวจ จุดสกัดพรหมบุรี หมู่ที่ 5 ต.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ในส่วนของผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.ศุภมิตร ได้มีการประชุมในเรื่องแนวทางการรักษาตัวของ ด.ต.ศุภมิตร โดย พล.ต.ต.จักรภพ สุคนธราช ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี ได้ประสานทางโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อส่งตัว ด.ต.ศุภมิตร เข้ารับการรักษาตัวอย่างเร่งด่วน

...

สอบถาม นางพิมพ์พัฒน์ พวงประเสริฐ ภรรยา ของ ด.ต.ศุภมิตรฯ ได้เล่าว่า “การรักษาตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ในส่วนของกล้ามเนื้อด้านขวายังอ่อนแรงอยู่ ยังมีเลือดซึมออกที่สมองอยู่ เส้นเลือดไม่ตีบ แต่จำคนอื่นได้แล้ว

“ในเรื่องการทำงาน สามีของตนไม่เคยมาบ่นว่ามีเรื่องกดดันอะไร จะมีคนที่มาไลฟ์สดเพจ อย่าหาทำ ซึ่งเคยมาไลฟ์สดก่อนหน้านี้แล้ว แต่สามีตนบอกว่าไม่เป็นไร อดทนได้ โดยสามีของตนมีโรคประจำตัวคือ ความดันสูง เพราะเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วเคยวูบไปครั้งหนึ่ง แล้วความดันขึ้นสูง แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอาการให้เห็นอีก จึงไม่ได้เช็คให้ละเอียด

สำหรับอุปนิสัยของสามีตนคือ จริงจังกับการทำงาน ไม่ชอบให้ใครมายุ่งตอนทำงาน จนสามีตนมาเจอคนที่มาไลฟ์สด 3 คน มารุมพูดใส่เขา ตนคิดว่าสามีของตนอดทนมากที่ไม่ตอบโต้ และกดดันจนสามีเครียดและเส้นเลือดในสมองแตกต้องมารักษาตัวดังกล่าว”

ต่อมาเวลา 11.00 น. รถพยาบาลของโรงพยาบาลตำรวจ ได้มารับตัว ด.ต.ศุภมิตร เพื่อไปรักษาต่อ โดยมี ผู้บัญชาการคือ พ.ต.ท.ภูษิต ก้อนทอง หัวหน้าชุดงานจราจร และ พ.ต.อ.สุเมธ โภชนา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี มาคอยดูแลด้วยความห่วงใย และได้ให้สัมภาษณ์ว่า

“อาการของ ด.ต.ศุภมิตร ยังคงที่อยู่ อยู่ในความดูแลของคุณหมอ แต่โชคดีตอนที่เกิดเหตุได้รับยารักษาเร็ว อาการเลยไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ในส่วนของการเยียวยา ทางโรงพักมีงบสะสมให้ตรงนี้อยู่แล้ว และทางผู้บังคับการและผู้บังคับบัญชาการทุกระดับได้มีการดูแลค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่

สำหรับหน้าที่ของคนที่ตรวจจับความเร็วของรถ เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่แทนกันได้ และเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ ที่มาทำงานตรงนี้ ซึ่งนอกจากจะจับความเร็วของรถแล้ว ยังได้ในส่วนของคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการจับคนร้ายจากคดีต่างๆ สามารถสกัดจับได้ที่ด่านมาหลายคดี จับตรวจทะเบียนรถที่ถูกขโมยมาหรือเปล่าเป็นต้น

ในส่วนของเครื่องแบบตำรวจ ซึ่งเป็นชุดเครื่องแบบใหม่ รองเท้าก็จะเป็นรองเท้าที่ใส่แล้วต้องคล่องตัว ตามหน้าที่ของการปฏิบัติงานของแต่ละคน

ในส่วนของคดีความตั้งแต่ผู้บังคับการฯ ลงมาให้ความเป็นห่วงและประสานกันตลอด และคงต้องถอดคลิปเพื่อดูว่าในส่วนไหนที่จะดำเนินคดีกับผู้ไลฟ์สดได้บ้าง แต่ในเบื้องต้นผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นอันดับ 1 ก่อน ส่วนในเรื่องของคดีก็จะทำให้รัดกุมที่สุด”

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้มาที่จุดสกัดพรหมบุรี หมู่ที่ 5 ต.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พบผู้ที่ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “ได้เดินทางกำลังจะไปเชียงใหม่ได้ขับรถผ่านมาครั้งแรก โดนจับความเร็วและโดนปรับ 500 บาท น่าจะโดนกันหลายคน”

...

ส่วนนาง รัตนวิวัลย์ เพชรประไพ อายุ 70 ปี อยู่ระแวกด่าน ซึ่งเป็นแม่ค้าขายของในวัดอัมพวัน หลวงพ่อจรัญ บอกว่าไม่เห็นด้วยในการตั้งด่าน เพราะผู้ที่มาทำบุญบ่นให้ฟังว่ามาทำบุญกันยังไม่ถึงวัดเลย โดนปรับ 500 บาทบ้าง 1000 บาทบ้าง ขอให้เบาๆ หน่อยอย่าไปปรับเขามาก เขาเสีย 500 แล้วเขาก็เสียความรู้สึก ถ้าเป็นได้ก็อยากจะให้ยกเลิก

ด้านนายศิริวัฒน์ เสียมสกุล อายุ 63 ปี เจ้าของร้านขายของชำบริเวณด่าน ซึ่งเปิดให้บริการแล้วกว่า 20 ปี ก่อนจะมีด่านแห่งนี้ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พอจะทราบไหมว่ารายได้จากค่าปรับเยอะหรือไม่ นายศิริวัฒน์ ตอบว่า เท่าที่ผมทราบมา ตำรวจที่จับกุมรถที่ใช้ความเร็วเกินกำหนดไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ส่วนมากจะได้แต่ตัวใหญ่ นายสั่งมาแต่ไม่คิดถึงความเดือดร้อนของประชาชน

“เมื่อก่อนตั้งอยู่แยกสิงห์บุรีก็ดีอยู่แล้วย้ายมาอำเภอพรหมบุรีทำไม สิงห์บุรีมันได้แค่ 30% มาอยู่พรหมได้ 50% อยากฝากถึงตำรวจที่ตั้งด่านว่า เลิกได้ก็เลิกเหอะ ถ้าจะตั้งให้ไปตั้งอื่น ตั้งกล้องไปเลย จะมาให้เจ้าหน้าที่แอบซุ่มยิงความเร็วทำไม หรือว่าถ้าไม่ซ่อนตัวก็ไม่มีรายได้ เพราะถ้ายืนให้เห็นเด่นชัด คนใช้รถก็ขับเบากันเองแหละ เมื่อก่อนรถไม่เคยติด ตอนนี้มาติดทุกเช้า รถบรรทุกขยาดกันหมดแล้ว ประมาณ 06.00 – 07.00 น. ติดทีนึง 3-4 กิโล แล้วจะมาไล่รถที่จอดหน้าร้านผม แต่ก่อนจับแต่ความเร็ว เดี๋ยวนี้เดินรอบรถเลย ผมสังเกตอยู่ผมคนที่นี่ พอรายได้น้อยก็เล่นรถใหญ่ (รถบรรทุก) ตอนนี้ผมทำอะไรมากไม่ได้ ลงทุนไปก็เจ๊ง ช่วงนี้ยังดียังดี ที่ช่วงบ่ายเลิกตั้งด่าน เราก็อาศัยขายช่วงบ่ายและก็ช่วงเย็น”

...

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเรื่องดังกล่าว จากการตรวจสอบไปที่เพจเฟซบุ๊ก นาย วราภรณ์ แจ็ค แซ่ล้อ แอดมินเพจ “อย่าหาทำ” พบว่ามีการโพสต์ข้อความระบุว่า ขออภัยที่ทำอะไรไม่ถูกใจทุกคน แต่เน้นความถูกต้องครับ, ต่างคนต่างทำหน้าที่ แต่ยามที่คุณเจ็บป่วย ในขณะปฏิบัติหน้าที่เราก็พร้อมช่วยเหลือ ถูกผิดทิ้งเอาไว้ก่อน (สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย : นักรบด่านเถื่อน) และ การช่วยตำรวจไม่ให้ ตุ่ย แล้วโดนคดี น่าจะมีที่นี่ที่เดียว XXXกะลาแลนด์