ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.กระบี่ ลุยตรวจสอบจับชาวต่างชาติลักลอบทำธุรกิจในพื้นที่ แย่งอาชีพคนไทย รวบหนุ่มรัสเซีย ตั้งบริษัทปล่อยรถเช่า ใช้คนไทยเป็นนอมินี พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีนับล้านบาท พร้อมโฉนดที่ดิน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 มีนาคม 2568 พ.ต.ท.วิศวะ เสน่หา รอง ผกก.สส.กก.สส.ภ.จว.กระบี่ นำตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.กระบี่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกระบี่ เจ้าหน้าที่สรรพากร จ.กระบี่ พาณิชย์ จ.กระบี่ และตำรวจท่องเที่ยว จ.กระบี่ นำหมายจับศาล จ.กระบี่ เข้าตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นร้านรถเช่าที่ดำเนินการโดยเครือข่ายชาวรัสเซีย ในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ โดยตำรวจสืบสวนนานกว่า 3 เดือน เพราะมีเบาะแสว่ามีบริษัทรถเช่าหลายแห่ง ที่จดทะเบียนในนามคนไทย แต่มีกลุ่มชาวต่างชาติเป็นเจ้าของอยู่เบื้องหลัง
จากการตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ประกอบด้วย นายเอฟแกนนี่ คามีตอฟ (Mr.EVGENY KHAMITOV) อายุ 43 ปี ชาวรัสเซีย เป็นเจ้าของบริษัทให้เช่ารถ จยย. ในข้อหา เป็นคนต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยง หรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
...
น.ส.ณัฏฐ์ขวัญช์ พงศ์พัลลภ ลูคัส อายุ 43 ปี และนอมินีชาวไทยอีก 2 ราย คือ นายพัลลภ เอี่ยมจันทร์ อายุ 48 ปี และ น.ส.สุภาพรรณ แตงอ่อน อายุ 52 ปี พร้อมยึดเอกสารเกี่ยวกับบริษัท เอกสารการเงิน พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีนับล้านบาท พร้อมโฉนดที่ดิน
แจ้งข้อหาชาวไทยทั้ง 3 ราย ในข้อหา ผู้มีสัญชาติไทยร่วมกันให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจ ของคนต่างด้าวอันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใดเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
คุมตัวทั้ง 4 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าว เปิดให้เช่ารถ จยย. เน้นลูกค้าเป็นชาวรัสเซียด้วยกัน ใช้วิธีโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารในชื่อคนต่างชาติ และใช้ชื่อนอมินีชาวไทยเป็นหุ้นส่วน เพื่อปกปิดตัวตนของเจ้าของที่แท้จริง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะขยายผลเพื่อติดตามผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินที่ยึดได้ทั้งหมดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.