ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมหนุ่มดอยแม่สลอง วัย 21 เป็นตัวการฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในปอยเปต กว่า 70 แก๊ง ตุ้นคนไทยวันละ 30 ล้านบาท ได้ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์

วันที่ 11 มี.ค. 68 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นำโดย พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง, พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จอมเล็ก สว.กก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.ปกฉัตร สงวนแวว สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.นันทณัฐ ปิณะวันนา ร.ต.อ.นนทนันท์ นวนงาม, ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ เศรษฐอัครเบญจา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท., จ.ส.ต.พีระวุฒิ สนธิสำราญ จ.ส.ต.กุลชาติ พลับสอาด ผบ.หมู่ ช่วยราชการ กก.3 บก.ปอท. ร่วมกันจับกุม นายบุรพล (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1842/2567 ลงวันที่ 25 เมษายน 2567 ในความผิดฐาน "มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"

โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ม.6 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรหลอกให้โอนเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท จึงได้ทำการสืบสวนและติดตามจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้ โดยสามารถจับกุมได้ตั้งแต่ บัญชีม้า, คนจัดหาบัญชีม้า, พนักงานคอลเซ็นเตอร์, ล่ามแปลภาษา รวมถึงบอสชาวจีน และทลายเครือข่ายลักลอบพาบัญชีม้าข้ามแดน ที่บริเวณตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

...

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้ส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปในออฟฟิศที่ทำการฟอกเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ทำให้สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นตัวการสำคัญในการฟอกเงินซึ่งอยู่ในออฟฟิศดังกล่าวได้เพิ่มเติม จนกระทั่งในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางการไทยมีการปราบปรามและกดดันแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างหนัก ทำให้ออฟฟิศดังกล่าวต้องปิดทำการชั่วคราว และผู้ต้องหารายนี้กลับเข้ามาฝั่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไปจับกุมตัว โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านบนดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่าไปทำงานเป็นพนักงานในออฟฟิศฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ บริเวณโซน 3 ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีบอสชาวจีนเป็นเจ้าของ โดยเป็นออฟฟิศฟอกเงินขนาดใหญ่ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนไทยทุกรูปแบบ กว่า 70 แก๊ง โดยจะได้ส่วนแบ่งเป็นเงิน 8-12% โดยในแต่ละวันจะมีเงินเข้าประมาณ 30 ล้านบาท หรือเกือบ 1 ล้าน USDT

โดยนายบุรพล เริ่มไปทำงานตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 โดยจะมีบัญชีม้าชาวไทย เข้ามาที่ออฟฟิศทุกวัน วันละประมาณ 20 คน มีนายหน้าชาวไทย เป็นคนติดต่อบัญชีม้าและพาข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ มาส่งให้กับนายหน้าชาวจีน โดยบอสชาวจีนจะให้ค่าบัญชีม้า บัญชีละ 8,000 -12,000 บาท ซึ่งนายบุรพล ทำหน้าที่แปลภาษาให้บอสชาวจีน, เช็กแอปธนาคารที่บัญชีม้าเปิดมา, สแกนหน้าบัญชีม้าเพื่อโอนเงิน, เปลี่ยนเงินจากเงินสดในบัญชีม้าเป็นเงินดิจิตอลสกุล USDT ผ่านแอปพลิเคชันคริปโตเคอเรนซี่ และโอนเงินดิจิตอลสกุล USDT เข้า Wallet ของบอสชาวจีน

จากนั้นบอสชาวจีน จะกระจายโอนส่วนแบ่งเป็น USDT เข้า Wallet ของแต่ละแก๊งตามยอดเงินที่แต่ละแก๊งหลอกลวงได้ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป