"บิ๊กต่าย" ระบุส่ง 40 อุยกูร์ถึงจีนแล้ว ยันเป็นไปตามเทคนิคและยุทธวิธี ขณะที่ศาลยกคำร้อง หลัง ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร้องไต่สวนฉุกเฉิน

ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 ก.พ. น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และนักสิทธิมนุษยชน เข้ายื่นต่อศาลอาญาให้ไต่สวนฉุกเฉิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 1 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกร้องที่ 2 กรณีละเมิด พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการทรมานและบังคับสูญหาย จากกรณีที่มีการส่งชาวอุยกูร์จำนวน 48 คน กลับไปยังประเทศจีน

น.ส.พรเพ็ญ กล่าวว่า ตนเป็นผู้แทนของมูลนิธิผสานวัฒนธรรมเข้ามายื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน กรณีที่มีผู้อ้างว่าพบเห็นเหตุการณ์การทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม โดยมีสื่อมวลชนรายงานว่ามีการใช้รถขนผู้ต้องขังโดยปิดบังรายละเอียดต่าง ๆ โดยเฉพาะการนำเทปดำมาปิดไม่ให้ผู้อื่นเห็น ไม่รู้ว่ากลุ่มคนที่อยู่ในขบวนรถดังกล่าวเป็นใครบ้างและนำตัวไปที่ใด

บทบาทของภาคประชาสังคมและทนายความเราพบว่า พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการอุ้มหายในมาตรา 26 ที่สามารถมาร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลได้ และสามารถเรียกผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติการ ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับการนำบุคคลเหล่านี้ออกนอกประเทศ ตอนนี้ตนยังทราบว่ามีหลายภาคส่วนกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เข้าชี้แจงต่อศาล หากศาลยกคำร้องตนขอยืนยันว่าจะมายื่นใหม่ในวันถัดไปหรือเข้ายื่นทุกวันจนกว่าศาลจะไต่สวนอย่างแน่นอน

...

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่เครือข่าย NGO นำเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยื่นขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน ว่า เรื่องดังกล่าวตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีหนังสือเป็นทางการจากรัฐบาลจีนมารัฐบาลไทย โดยยืนยันว่าชาวอุยกูร์ทั้งหมดที่ส่งกลับมีทั้งหมด 40 คน ส่วนอีก 8 คน เป็นชาวจีนที่ทำผิดกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งชาวอุยกูร์ 40 คน ถูกจับกุมเมื่อ 11 ปีที่แล้ว และมีการควบคุมตัวอยู่ในความดูแลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาโดยตลอด โดยทางการจีนได้ทำหนังสือแสดงความจริงใจและเจตจำนงว่าชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับทั้งหมดจะได้รับความปลอดภัย

โดยมีคณะกรรมการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ไปกำกับดูแล ซึ่งขณะนี้ชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คน ได้เดินทางถึงประเทศจีนแล้ว ทั้งหมดได้รับการตรวจสุขภาพและเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งทางการจีนรับปากทั้งเรื่องความปลอดภัย ที่อยู่ และให้ญาติมารอรับที่มณฑลซินเจียง หลังจากนี้ก็จะมีวงรอบในการตรวจสอบความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ทั้งหมดเพื่อความมั่นใจ

ถามว่ากระบวนการส่งต่อชาวอุยกูร์ออกจาก ตม.สวนพลู ทำไมถึงต้องปิดทึบรอบคันรถ และมีการปิดบังโลโก้ รวมถึงยานพาหนะที่ใช้ซึ่งไม่ใช่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขบวนการทั้งหมดเป็นเทคนิคและยุทธวิธีเพื่อความปลอดภัย ความเรียบร้อย รวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่เห็นได้ว่าขบวนการทั้งหมดทำให้ชาวอุยกร์ปลอดภัย และถึงปลายทางอย่างปลอดภัย รวมถึงการส่งตัวในช่วงกลางดึกเพื่อไม่ให้กระทบกับการจราจรของประชาชนและสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ถึงแม้ว่าชาวอุยกูร์ที่อยู่กับเรามานานกว่า 10 ปี แต่ก็เป็นภาระที่เราต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการดูแล



ถามว่างานขนย้ายชาวอุยกูร์จะสร้างผลกระทบและความโกรธแค้นเหมือนในอดีตกับประเทศไทยหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคง มีมาตรการในการตั้งรับดูแลประชาชน สถานที่สำคัญต่างๆ เพื่อความไม่ประมาทและไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย พร้อมยืนยันว่า การขนย้ายชาวอุยกูร์เป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีการบังคับหรือขัดขืน โดยมีตำรวจขึ้นไปกำกับดูแลความเรียบร้อยบนรถทุกคันเพื่อความเหมาะสม นอกจากนี้อยากขอความเห็นใจให้ตำรวจ หากกักตัวต่อไปก็จะเกิดกระแสเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่พอปล่อยตัวกลับไปก็จะถูกตำหนิว่าทำถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ ดังนั้นขอให้เข้าใจตำรวจด้วยว่าเรารักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ

"การส่งตัวผู้กระทำผิดหลบหนีเข้าเมือง ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ผมว่าเป็นเรื่องปกติที่เราส่งไป ทำไมเวลาเราจับคนต่างชาติ และเราส่งกลับละ ชาวอุยกูร์ ผมว่าก็ไม่ต่างกัน ยังไงก็ต้องส่งกลับ เราจะต้องกักเขาไว้ในระยะเวลาอีกกี่ปี 10-11-12-13 ปีเหรอ เขาก็เป็นมนุษย์ เขาควรจะได้กลับบ้านไงครับ" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว

ผบ.ตร. กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำหนังสือเสนอแนะไปยังรัฐบาลมาโดยตลอดเกี่ยวกับเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์ให้ทางการจีนตามคำร้องขอ โดยในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะแถลงข่าวถึงรายละเอียดเรื่องนี้กับสื่อมวลชน

เมื่อถามว่าที่สหรัฐอเมริกาประท้วงเรื่องการส่งกลับชาวอุยกูร์ส่งผลกระทบถึงการจัดลำดับเทียร์ค้ามนุษย์ของไทยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราคำนึงถึงทุกเรื่อง โดยมีการหารือกับทุกฝ่ายในเรื่องสิทธิมนุษยชนเพื่อไม่ให้มีผลกระทบ และเป็นไปตามหลักสากล

...

ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ศาลมีคำสั่งยกคำร้อง ที่ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรมร้องไต่สวนฉุกเฉิน นายกฯ -สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งกลับอุยกูร์ 48 คนไปจีน โดยระบุเนื่องจากบุคคลที่เป็นผู้ร้องไม่ได้เป็นบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ในการกระทำแทนผู้เสียหาย จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง