ตำรวจไซเบอร์นำหมายค้นบ้าน ผู้ดำเนินรายการสาว ช่อง The Critics เชิญตัวสอบปากคำในฐานะพยาน กรณีคลิปข่าวหมิ่นประมาทอดีตนายก "ทักษิณ ชินวัตร"

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 68 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.4 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาที่ 110/2568 ลงวันที่ 19 ก.พ. 68 เพื่อเข้าค้นบ้านหลังหนึ่งใน ถ.ชัยพฤกษ์ แขวงและเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ก่อนเชิญตัว น.ส.ไญยิกา เจ้าของบ้าน และเป็นผู้ดำเนินรายการช่อง The Critics มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้การในฐานะพยาน หากพบว่าเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังหรือได้รับความอับอายหรือไม่ หากพิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานแล้ว พบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็จะเชิญมาพบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไปในภายหลัง

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ที่ยังอยู่ อ.แม่สอด จ.ตาก ว่าจะเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในกรณีที่ถูกเพจหนึ่งใช้ข้อความบิดเบือน ต่อว่า ให้ร้าย จึงรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งพบข้อมูลว่าก่อนหน้า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มอบอำนาจให้นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อมอบคดีต่อพนักงานสอบสวนในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีที่มีการตัดต่อข้อความ โดยประการที่อาจจะเกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียง เช่นกัน

...

จากกรณีที่สำนักข่าวดังกล่าวทำคลิปข่าวหมิ่นประมาทอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ นำเสนอข่าวทางการเมืองมีการอัปโหลดลงบนสื่อโซเชียลมีเดียที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้

ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานมา ก่อนจะขออนุมัติศาลอาญาออกหมายค้นบ้านพักย่านตลิ่งชัน เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.พ.) ซึ่งศาลอาญาได้ให้หมายเข้าถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ คือโทรศัพท์มือถือ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน

โดยเบื้องต้น พนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ทั้งสิ้น แต่ได้ออกหมายเรียกพยาน และเชิญตัวพยานคนดังกล่าวมาสอบสวนปากคำ กรณีที่เป็นผู้ดำเนินรายการช่อง The Critics ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี หากเข้าข่ายความผิดก็จะดำเนินคดี แต่หากไม่เข้าข่ายก็จะดำเนินการตามการพิจารณาตามกระบวนการสอบสวนต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้น เจ้าตัวให้การว่าอย่างไรบ้างนั้น พล.ต.ต.วิวัฒน์ ระบุว่า เบื้องต้นผู้ดำเนินรายการในฐานะพยาน ได้ให้การว่าเป็นลูกจ้างที่ไหน ใครเป็นบรรณาธิการ และมีห้องตัดต่อหรือห้องส่งที่ไหน รวมถึงยอมรับว่า ทำตามสคริปต์ที่ได้รับมอบมา และดำเนินรายการนำเสนอ ซึ่งได้ให้การเป็นประโยชน์พอสมควรต่อเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากรายละเอียดของช่อง หรือข้อความที่พูดไป ก็ต้องไปดูว่าอันไหนที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทฯ

ส่วนสคริปต์ดังกล่าวมาจากไหนนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ โดยขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อน อย่างไรก็ตามยังมีบุคคลอื่นอีก ซึ่งตำรวจ บช.สอท. ก็จะรับไว้พิจารณา และว่าไปตามกฎหมายหน้าที่ ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวอีกว่า สื่อมวลชนสามารถนำเสนอข่าวได้ตามข้อเท็จจริง และขอบเขตอยู่แล้ว และต้องอยู่บนข้อเท็จจริงที่เป็นความจริง หากอยู่นอกขอบเขตสื่อก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ละเมิดสิทธิของคนอื่น หากมีผู้เสียหายมาใช้สิทธิร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ก็จะต้องดำเนินคดีต่อไป.