"เฟิร์น" เหยื่ออีกคนของ "โอชิ" แก๊งสาดน้ำซุป เปิดใจหลังถูกแฉ ปมยกพวกรุมทำร้ายสาว ยอมรับลงมือเพราะอารมณ์ชั่ววูบ อยากขอโทษเคลียร์ใจ ส่วนคดีตอนนี้อยู่ในชั้นศาลแล้ว
กรณีที่จากที่ "กัน จอมพลัง" นำเหยื่ออีกคนของแก๊งสาดน้ำซุป ที่ถูก "โอชิ" รุมทำร้ายหลายต่อหลายครั้ง หนักสุดคือ จับถอดเสื้อ แล้วรุมกระทืบจนสลบ ไปออกรายการโหนกระแส แต่แล้วกลับมีผู้เสียหายคนหนึ่ง ออกมาแฉเหยื่อว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกคนที่บอกว่าเป็นเหยื่อ พาเพื่อนมาบุกถึงห้อง ก่อนรุมทำร้ายจนอ่วม ไม่ต่างจากที่เขาเคยโดนเหมือนกัน ทำเอารถทัวร์ถึงกับหันกลับอย่างไวดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (เหยื่อ "โอชิ" ถูกแฉ เคยยกพวกไปรุมทำร้ายสาว เกิดภาพหลอน จนต้องพบจิตแพทย์)
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 ก.พ. 68 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก. สภ.คลองหลวง ได้ออกมาเปิดเผยภาพรวมของคดีการทำร้ายร่างกายของแก๊งราดน้ำซุปว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความแล้วรวม 4 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน ซึ่งตัวพรีมเองรับสารภาพเพียง 4 คดี ส่วนอีก 1 คดี (คดี 7 รุม 1) เจ้าตัวปฏิเสธ
ส่วนไอซ์ ที่อ้างว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งก็ได้มีการนำหลักฐานบางส่วนมายืนยันกับพนักงานสอบสวน ในส่วนนี้ก็ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน ทั้งผู้ต้องหาและพยาน ถ้าพบว่า มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ทางตำรวจจะทำเรื่องเพื่อยื่นขอเพิกถอนการฝากขัง และสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งในคดีแบบนี้เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เน้นเอาผู้ต้องหามาลงโทษ แต่เน้นเอาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ
...
ส่วนคดีของโปเต้นั้น เมื่อคืนได้มีการควบคุมตัวโปเต้ พร้อมของกลาง ประกอบไปด้วยบุหรี่ไฟฟ้า 4 ตัว หัวพอต 27 หัว ได้มีการสอบปากคำ และมีการแจ้งข้อหาครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าโดยผิดกฎหมาย ซึ่งโปเต้ได้ให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และมีการกล่าวอ้างว่า ตนเองต้องการที่จะเลิกขายบุหรี่แล้ว แต่ถูกข่มขู่จากพรีม แต่เงินที่ได้จากการค้าขาย ก็เข้าบัญชีตัวผู้ต้องหา ทั้งนี้ ได้มีการขอประกันตัวออกไปในวงเงิน 50,000 บาท ส่วนกรณีที่แฟนของโปเต้เอาบุหรี่ไฟฟ้าไปทิ้ง อยู่ระหว่างการติดตามหาหลักฐาน
ซึ่งการตรวจค้นในครั้งนี้ ยังตรวจพบกล่องพัสดุ จำนวน 3 กล่อง ด้านในมีบุหรี่ไฟฟ้า 292 ตัว มีการจ่าหน้าพัสดุเป็นชื่อพรีม แต่ไม่มีการระบุชื่อผู้ส่ง เมื่อตรวจสอบย้อนกลับไป พบว่าพัสดุดังกล่าวมาถึงเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ถูกส่งมาจากดอนเมือง แต่ยังไม่มีการระบุว่าใครเป็นผู้รับ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพรีมด้วย เพราะยังไม่มีการระบุผู้รับ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วงวันที่มีการสั่งพัสดุ เป็นช่วงที่พรีมมีอิสระภาพ จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ในวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงนี้ ต้องทำการสืบสวนขยายผลต่อว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ส่วนเคสผู้เสียหายที่ คุณกันจะนำมาร้องทุกข์ในวันนี้ เราได้มีการพิสูจน์ทราบเบื้องต้นแล้ว พบมีผู้เกี่ยวข้องประมาณ 3 ราย มีทั้งคนใหม่ และคนเก่า แต่ขอยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร
ด้าน กัน จอมพลัง ระบุว่า วันนี้มีผู้เสียหายที่พามาร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สภ.คลองหลวง ประกอบด้วยเคสของ "เฟิร์น" ถูกทำร้าย 3 ครั้ง ครั้งแรกที่บันไดหนีไฟ ครั้งที่ 2 ทำร้ายที่ปั๊มน้ำมัน และครั้งที่ 3 เหตุเกิดในพื้นที่สภ.คลองห้า ถูกลากเข้าไปในมุมมืดฉีกเสื้อ และใช้สายกระเป๋ารัดคอ และอีกเคส "ตะวิน" ที่คบหาเป็นเพื่อนกัน ซึ่งพรีมเสนอให้ยืมของใช้ คือ เข็มขัดให้ไปใช้ เมื่อนำมาคืน พรีมบอกว่าไม่ใช่เส้นนี้ เพราะเป็นของแบรนด์เนม ซึ่งมีแชทยืนยัน แต่พรีมยังคงกล่าวหาว่า มีการนำเข็มขัดไปขายหรือไม่ จนสุดท้ายได้ทราบว่าหาย หากไม่จ่ายเป็นเงินค่าเข็มขัด จะถูกพรีมทำร้าย ทางผู้เสียหายจึงตัดสินใจจ่ายเงิน 8,000 บาท แต่ไม่ยอมรับว่าเอาของไป เพียงแต่อยากจบปัญหาเท่านั้น โดยต้องดูว่าเรื่องนี้ จะเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์หรือไม่ ซึ่งตนบอกว่าวิธีนี้คล้ายๆ แบบเดิมในการก่อเหตุ
และอีกเคส "พิมพลอย" ที่ถูกหมั่นไส้ ถูกกล่าวหาว่าขโมยเซรั่มไป ซึ่งเจ้าตัวอยากจบปัญหา จึงไปซื้อเซรั่มมาคืนเพื่อตัดปัญหา แต่พรีมบอกจะรับเป็นเงิน และตามละลานถึงร้านปิ้งย่าง พร้อมข่มขู่หากไม่จ่าย จะกดหน้านาบกระทะปิ้งย่าง ซึ่งเพื่อนของน้องอาสาจะจ่ายคืนให้พรีม แต่เขาก็ไม่รับ บอกจะเอาเงินจากน้องอย่างเดียว จนนำมาสู่การทำร้ายร่างกายตามมา และเคส "อเล็ก" ที่ถูกทำร้ายร่างกายเนื่องจากมีปัญหาเรื่องเงิน โดยมีหนึ่งในกลุ่มราดน้ำซุป ทักมาหาว่ามีชื่อเขาหรือไม่ และถูกข่มขู่ว่า "เดี๋ยวเจอกัน" ซึ่งทำให้เขาหวาดกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย และอาจนำไปสู่การคัดค้านการประกันตัวในครั้งที่สอง
ส่วนกรณีของน้องแก้มที่ถูกเฟิร์นทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นตนได้พูดคุยผู้กำกับการ สภ.บางศรีเมือง ซึ่งได้แจ้งว่ามีประเด็นสอบ โดยทางอัยการได้ส่งกลับมา ซึ่งจะเร่งสอบสวน และส่งกลับไปยังอัยการอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีต่อไป และเบื้องต้นได้พูดคุยกับรองอธิบดีอัยการด้วย เพราะจะได้ประสานกันได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้น้องแก้มเกิดความสบายใจขึ้น
ขณะที่เฟิร์นที่ทำความผิด เป็นผู้เสียหาย และเป็นผู้ก่อเหตุ ต้องแยกกันคนละเรื่อง ต้องให้ความเป็นธรรมเป็นกรณีไป และตนได้สอนไปแล้วว่า หากวันนี้เราทำผิดพลาด ต้องมีสำนึก และรู้จักคำว่าขอโทษ แล้วก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะมีคลิปเป็นหลักฐาน สำหรับเรื่องนี้ ตนทราบเรื่องตั้งแต่ช่วง 21.00 น. ของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้มีความลังเลที่จะช่วยเหลือเฟิร์น เพราะตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่จะโอนเอนให้กับฝ่ายใด เพราะใครทำสิ่งใดต้องได้รับผลการกระทำ
...
เรื่องนี้ตนมองว่าเป็นเรื่องของเวรกรรมมีจริง แต่อยู่ที่ว่าจะตามทันเมื่อไหร่ อย่างเคสของราดน้ำซุป เหตุเกิดมาแล้ว 1-2 ปี เพราะถึงเวลาของมัน สิ่งสำคัญ คือคนที่กระทำผิดต้องปรับตัวกลับใจมาอยู่ในสังคม ซึ่งไม่ใช่เพียงการพูดว่าสำนึกผิดแล้ว แต่ลับหลังยังเหมือนเดิม
เหยื่อที่ถูกกลุ่มของนายพรีมทำร้ายร่างกาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 4 ราย คือ น.ส.เมลล์ ถูกอุ้มบังคับให้กราบขอโทษ เมื่อปี 2567 พิมพลอย ถูกพรีมกล่าวหาว่าขโมยเซรั่ม และเรียกร้องให้จ่ายเงินคืน และถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อปี 2567 ตะวิน ยืมเข็มขัดจากนายพรีม พอเอามาคืนแต่อ้างไม่ใช่เส้นเดิมที่ให้ไปเป็นแบรนด์เนม ก่อนจี้ให้ชดใช้เป็นเงิน อเล็กซ์ ที่ถูกเพื่อนพรีมทักมาถามว่าได้ชี้ตัวเองหรือไม่ ก่อนจะพิมพ์ข้อความในลักษณะข่มขู่ว่า เดี๋ยวเจอกู เฟิร์น หรือ เปา ที่ถูกจัสมิน และกลุ่มโอชิ ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสถึง 3 ครั้ง เมื่อปี 2566
ด้านเฟิร์น ได้กล่าวถึงกรณีที่ น.ส. แก้ม ออกมาเปิดเผยว่าเคยถูกตนเอง และเพื่อนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อปี 2567 โดยยอมรับความได้ทำจริง ซึ่งตนเองก็ได้รับผลของการกระทำนั้นแล้ว เพราะคดีอยู่ในชั้นศาล ในวันเกิดเหตุตนไม่ได้มีเจตนาที่จะไปทำร้ายตั้งแต่แรก แค่อยากจะไปถามความจริง จึงเดินทางไปพร้อมกับเพื่อน รวม 4 คน แต่พอถามน้องปฏิเสธว่าไม่รู้อย่างเดียว ด้วยความบันดาลโทสะจึงได้ลงมือ ซึ่งเพื่อนเป็นคนเริ่มก่อน ตนเองทำไม่มาก แค่ใช้มือตีหน้าน้องเท่านั้น คนที่ทำหนักสุดคือ พีท กับ ม่อน มีการใช้เท้าเตะ ไม่มีการใช้ไม้เบสบอลตีน้องอย่างที่หลายคนพูด ซึ่งหลังจากทำร้ายน้องเสร็จ พวกตนก็เดินทางกลับทันที และในคืนเดียวกันตำรวจ สภ.บางศรีเมือง ก็ได้ติดต่อมา ตนก็เดินทางไปที่สถานีตำรวจ
ยอมรับว่า การลงมือในครั้งนั้นเกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบล้วนๆ ตนไม่คิดจะแก้ตัว และหลังจากนั้น ตนได้พยายามจะติดต่อหาน้องแก้ม แต่น้องไม่คุยด้วย ขอคุยในชั้นศาล วันนี้ได้ยินเสียงของน้องแก้มที่ยังร้องไห้ความหวาดกลัวอยู่ ก็รู้สึกหดหู่ที่ทำให้คนๆ นึงเป็นแพนิค ส่วนที่ตอนนี้จากคนที่เคยเห็นใจเรา กลายเป็นไม่เห็นใจแล้ว ตนก็เข้าใจ แต่ก็ต้องทำให้ดีที่สุด อะไรที่ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด อะไรที่ถูกก็ว่ากันตามถูก ส่วนที่อยากได้เบอร์ติดต่อน้องแก้ม เพราะอยากจะขอโทษหรือเคลียร์ใจกัน โดยไม่หวังที่จะมาลดทอนคดีเพราะตอนนี้คดีอยู่ในชั้นศาลแล้ว.
...