พ่อแม่-ญาติ และเพื่อนของ LGBTQ แก๊งสาดน้ำซุป เข้าเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจ "แม่พรีม" ยันไม่ยื่นประกันตัว อยากให้เรียนรู้ชีวิต ขณะที่เพื่อนเผย เมื่อก่อนพรีมไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 11 ก.พ. 68 พ่อและแม่ของ นายรษิภา สัจวรรณ์ หรือ พรีม อายุ 22 ปี เดินทางมาเยี่ยมลูก ที่ห้องคุมขังของ สภ.คลองหลวง ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่จะได้นำตัว "พรีม" และ "โอชิ" ไปฝากขัง
แม่ของพรีมให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนซื้อข้าวเหนียวหมูย่างเข้ามาเยี่ยมลูก และไม่ขอยื่นประกันตัวลูก เนื่องจากอยากให้เขาเรียนรู้ชีวิต และตนก็ไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะประกันตัวลูกด้วย ตนยอมรับขาดการอบรมลูก เขาอยู่ที่มหา'ลัยใช้ชีวิตตอนกลางคืน เราก็ไม่รู้เราก็ทำแต่งาน ก็สอนให้เขาอดทนเมื่ออยู่ในนั้น ซึ่งผู้ปกครองทุกคนสอนลูกให้เป็นคนดีทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับตัวเด็กเอง เราสอนเขาตลอดให้คบเพื่อนดีๆ ซึ่งค่าเทอมที่มหาวิทยาลัยก็แพง แม่ก็ช่วยกับพ่อหาเงิน เดือนไหนไม่มีก็กู้มาให้ลูก เติมเต็มในสิ่งที่เขาขาด เพราะเราไม่มีการศึกษา ลูกอยากอยู่ตรงนี้เราก็สนับสนุน เพราะเห็นเขาสนใจการเรียน และแม่ก็เพิ่งรู้เมื่อวานว่าเขาจบไปแล้ว และมาลงเรียนใหม่

...
ด้านน้องแนน (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เพื่อนซึ่งมาเยี่ยมพรีม เผยว่า พรีมก่อเหตุจริงตามคลิปวิดีโอ ตัวเองรู้จักกับพรีมนานแล้ว ก่อนหน้าไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ ก่อนหน้านี้พรีมเป็นคนที่ดีในระดับหนึ่ง แต่หลังจากที่เรียนจบก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ตอนนี้รู้สึกไม่โอเค ที่เพื่อนเคยรู้จักมาทำร้ายคนอื่นแบบนี้ ตัวเองไม่สนับสนุนความรุนแรง แต่ก็ยังไม่ทราบว่าพรีมมีเหตุจูงใจอะไรที่ก่อเหตุแบบนี้ มาถึงขั้นนี้เชื่อว่าพรีมต้องสำนึกได้แล้ว และอยากให้พรีมกลับมาเป็นคนดีคนเดิม
ด้าน นายรัมย์ ธนษา ทนายความส่วนตัว นายดลลธี หรือ พอล ได้เข้ามาเยี่ยมลูกความ เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากพี่สาวของพอล ให้เข้ามาช่วยเหลือด้านคดี เป็นทนายความให้นายพอลเพียงคนเดียว ไม่ได้เป็นทนายความให้กับคนอื่นๆ ก่อนที่จะไปพูดคุยกับนายพอล ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อเตรียมต่อสู้คดีหลังจากนี้
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา นายภาราดร หรือ ไอซ์ อายุ 22 ปี เดินทางเข้ามาพบ พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รองผกก.สส.สภ.คลองหลวง ซึ่งไอซ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับในคดีข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือกระทำด้วยประการใดๆ ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

ต่อมาเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายรษิภา หรือ พรีม สัจวรรณ์ อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่ 1322568 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน "ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น" และนายชคัทพล หรือ โอชิ วชิรวรรณ อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่ 1332568 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน "ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น" มาพร้อมผู้กระทำความผิดอื่นๆ เพื่อขึ้นรถห้องขังส่งศาลจังหวัดธัญบุรีขออำนาจศาลฝากขัง แต่สุดท้ายก็ต้องนำตัวพรีมและโอชิกลับมา เพราะว่าจะควบคุมตัวพรีมและพวกทั้งหมดรวม 8 คนไปฝากขังครั้งเดียวกันในเวลา 13.00 น.
พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เกิดความสับสนเล็กน้อยของตำรวจที่มีหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง เพราะไม่ทราบว่าจะได้มีการแยกผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวออกมาเพื่อฝากขังพร้อมกันในเวลา 13.00 น. โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว
ส่วนกรณีที่มีข่าวเรื่องทีมขายพอร์ตเค ซีเต้ และปาเต้ ที่เพื่อนร่วมหุ้นด้วยกัน ยอมรับว่า ร่วมกันลงทุนขายบุหรี่ไฟฟ้าจริง แต่ไม่ได้ขายพอร์ตเค และไม่ได้จ่ายส่วยให้ตำรวจในการขายบุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด ส่วนกรณีคลิปเสียงบังคับให้ผู้เสียหายวัดดวงดื่มเครื่องดื่มผสมไซยาไนด์นั้น ทางพรีมเพียงแค่ขู่เท่านั้น ไม่ได้มียาไซยาไนด์จริง ซึ่งอยากฝากน้องๆ ทุกคนที่เป็นเยาวชน อย่าไปทำพฤติกรรมลอกเลียนแบบ เพราะโทษที่จะได้รับคือการติดคุกและเสียอนาคต