แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจากกระทรวงการคลัง หลอกคุณยายวัย 85 ปี อดีตข้าราชการครู ให้โอนเงินออกจากบัญชี 2 ล้านบาท ยังดีตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับธนาคาร ตามอายัด ระงับการทำธุรกรรมไว้ได้ทัน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีผู้เสียหายเป็นหญิงอดีตข้าราชการครู วัย 85 ปี ชาว จ.นนทบุรี พร้อมนายทัศน์พล ทิศเสถียร อายุ 30 ปี หลานชาย เข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รรท.ผบก.สอท.1 หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินออกจากบัญชี 2 ล้านบาท เพื่อให้ช่วยดำเนินการติดตามคนร้าย โดยมีการสอบปากคำอย่างละเอียดนานกว่า 1 ชั่วโมง

ภายหลังเสร็จสิ้นจากการสอบปากคำ พล.ต.ท.ไตรรงค์ เผยว่าสำหรับในคดีนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาทางผู้เสียหายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจากกระทรวงการคลัง แจ้งกับทางผู้เสียหายว่าพันธบัตรสลากออมสินของคุณยายผู้เสียหายนั้น มีอยู่ 4 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หากไม่ทำให้ถูกต้องหรือทำให้เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่า 2 ล้านบาท ก็จะถูกเรียกเก็บภาษี

...

จากนั้นหลอกให้คุณยายพูดคุยโดยการวิดีโอคอลประมาณ 1 ชั่วโมง โดยล่อลวงให้คุณยายโหลดแอปพลิเคชันธนาคารและหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงินมาไว้ในมือถือ จากนั้นก็สอนให้คุณยายเข้าไปในแอปธนาคารและทำธุรกรรม รวมถึงสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนตามขั้นตอน ก่อนจะดูดเงินออกจากบัญชีธนาคารไปเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท ก่อนหลานชายทราบเรื่องได้พาไปแจ้งความไว้เบื้องต้นกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ให้ดำเนินการอายัดบัญชี

โดยทาง บช.สอท. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รรท.ผบก.สอท.2 ทำการสืบสวนสอบสวนในการติดตามเงินของผู้เสียหาย หลังจากที่ได้ทราบเรื่อง ตนเองได้ให้ทีมประสานงานกับธนาคารเพื่อตรวจสอบและระงับทางธุรกรรมทางการเงินต่อจากที่ทาง สภ.ปากเกร็ด จึงทำไว้ เบื้องต้นพบว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีต้นทางผ่านไปยังบัญชีสุดท้ายปลายทาง จำนวน 2-3 บัญชี

เบื้องต้นทางตำรวจไซเบอร์ร่วมกับธนาคารสามารถระงับบัญชีธนาคารปลายทางได้ และได้รับการประสานกลับมาจากธนาคารปลายทางว่า สามารถระงับเงินจำนวนดังกล่าวไว้ได้ แต่อาจจะถูกหักค่าธรรมเนียมไว้ 200 บาท จากการโอนเงินจำนวน 2 ล้าน ขั้นตอนต่อไปก็จะทำหมายอายัดเพื่อนำเงินกลับมาคืนให้กับผู้เสียหาย

ในส่วนของการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด และผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบัญชีม้า หรือผู้ร่วมกันกระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลติดตามตัวผู้กระทำความผิด ส่วนชื่อของเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังที่นำมาแอบอ้างเชื่อว่าน่าจะเป็นบุคคลที่มีอยู่จริงเพราะเป็นรูปแบบเดิมของมิจฉาชีพที่มักจะอ้างชื่อเจ้าหน้าที่รัฐ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า อยากให้เฝ้าระวังโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่อาจจะรู้ไม่เท่าทันมิจฉาชีพเพราะไม่ชำนาญในเรื่องเทคโนโลยี อีกทั้งยังประชาสัมพันธ์ให้คนอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปโหลดแอปพลิเคชัน “Senior’s Community Cyber Police Club” เพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพในการที่จะถูกหลอก อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีนี้จะรีบดำเนินการนำเงินมาคืนผู้เสียหายให้เร็วที่สุด ซึ่งหลังจากที่ผู้เสียหายทราบว่าสามารถติดตามเงินคืนได้ ก็แสดงอาการดีใจ กล่าวขอบคุณตำรวจปากเกร็ดและตำรวจไซเบอร์ที่ช่วยกันดำเนินการติดตามเงินคืนมาได้สำเร็จ อีกทั้งฝากไปถึงประชาชนหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับตนเองให้รีบไปแจ้งความสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อให้ตำรวจประสานงานไปยังธนาคาร และรีบอายัดเงินในบัญชี