ชัยนาท/โผล่อีกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ AI ปลอมเป็นตำรวจ ลวงข้าราชการหญิง ซี 7 เมียอดีตที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ ให้มาเปิดรีสอร์ต ขู่พัวพันคดีฟอกเงิน 14 ล้าน ยังดีสามีโทรแจ้งตำรวจเข้าช่วยเหลือ ก่อนโอนเงิน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจสอบรีสอร์ตแห่งหนึ่งในตัวเมืองชัยนาท หลังรับแจ้งเหตุแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับบทเป็นตำรวจปลอมผ่านเอไอ โดยมี ดร.ณัชรัตน์ กล่ำทวี อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้แจ้งความ เพราะผู้เสียหายคือ นางสาวบี (นามสมมติ) ข้าราชการระดับ 7 ฝ่ายการเงิน ของหน่วยงานแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท
พอตำรวจนำกำลังไปเคาะประตูขอเข้าไป นางสาวบี เปิดประตูออกมาด้วยท่าทีตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก ในมือถือโทรศัพท์คุยวิดีโอคอลอยู่ ปลายสายคือตำรวจเอไอ อ้างเป็น ร.ต.อ.ธนาวิทย์ วงษ์มูน รอง สว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี พอตำรวจจริงขอคุยด้วย ปลายทางชิ่งวางสายก่อน ดีที่สามีไหวตัวทันแจ้งตำรวจมาช่วยไว้ได้ก่อนที่จะโอนเงิน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไป

...
ดร.ณัชรัตน์ กล่ำทวี อดีตที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนเป็นสามีของผู้เสียหาย จู่ๆ ตอนเช้า ภรรยารับโทรศัพท์ ตนได้ยินแว่วๆ เกี่ยวกับการกระทำความผิดเปิดบัญชีที่ธนาคารในจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 14 ล้านบาท เพื่อฟอกเงิน แล้วภรรยาก็ขับรถออกจากบ้านไม่รู้ไปไหน ไม่ใส่ชุดข้าราชการไปทำงาน มารู้อีกที ภรรยาส่งข้อความมาบอกว่าอยู่ที่รีสอร์ตในตัวเมือง จึงรีบมาก็เจอรถภรรยาจอดอยู่ จึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันที เพราะคิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แน่นอน กลัวว่าภรรยาจะถูกอุ้ม ถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่

จากการสอบถามภรรยาจึงทราบ ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้หว่านล้อมให้มาเปิดห้องไว้เพื่อดำเนินการช่วยเหลือและผ่อนหนักเป็นเบา ทางภรรยาก็หลงเชื่อ ทางภรรยากลัวว่าจะมีความผิดเพราะตนเป็นข้าราชการด้วย กลัวกระทบกับงาน ตนก็เข้าใจและไม่อยากตำหนิ

“อยากฝากไปถึงรัฐบาลไทยให้เข้มงวดกวดขันจับพวกโกงกินประชาชนไปให้หมดบ้านหมดเมือง อีกทั้งเรื่องข้อมูลที่หลุดรั่วออกไป เพราะทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ซื้อข้อมูลทั้งหมดไว้ในมือแล้ว ปราบก็ต้องปราบให้จริงจังไม่ควรเหยาะแหยะ ไม่งั้นประชาชนชะตาดำๆ ลำบากแน่นอน”