บุรีรัมย์ ตำรวจ สภ.พุทไธสง ร่วมกับ ตร.นครบาล รวบแล้ว สาวแสบ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูต รวมหัวอดีตรองปลัด อบต. หลอกแรงงานหลายจังหวัด 250 คนไปทำงาน “ออสเตรเลีย” ก่อนปล่อยลอยแพสนามบินสุวรรณภูมิ สูญเงินรวมกว่า 20 ล้าน อ้างนำเงินไปลงทุนเทรดทองหมดแล้ว ขณะที่ผู้เสียหายรวมตัวหน้าโรงพักขอดูหน้า-จี้คืนเงิน ตร.จ่อเอาผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน อายัดทรัพย์สินขายทอดตลาด
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่แรงงานชาวไทยจากหลายจังหวัดประมาณ 250 คน ถูก น.ส.ธมลวรรณ หรือ ออย อายุ 28 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตออสเตรเลีย หลอกลวงจะพาไปทำงานเกี่ยวกับภาคเกษตรและโรงแรมที่ประเทศออสเตรเลีย โดยอ้างว่ามีค่าแรงสูงถึงหลักแสนบาท และได้เรียกเก็บค่าดำเนินการจากแรงงานที่หลงเชื่อทั้ง 250 คน คนละ 60,000 – 120,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท แต่พอวันที่ 4 ม.ค.68 ที่ น.ส.ออย หลอกให้ไปรอที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วปล่อยลอยแพ ไม่ได้บินไปทำงานออสเตรเลียจริงตามที่กล่าวอ้าง แล้ว น.ส.ออย ก็หายตัวไปนั้น
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา 22 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ได้จับกุม น.ส.ธมลวรรณ หรือออย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 22/2568 ในฐานความผิด “ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปทำงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ก่อนจะควบคุมตัวมาที่ สภ.พุทไธสง ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งจากการสอบปากคำ น.ส.ธมลวรรณ หรือออย ผู้ต้องหา เบื้องต้นให้การว่า ได้หลอกลวงแรงงานจากหลายจังหวัด ว่าจะสามารถส่งไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลียจริง โดยอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตออสเตรเลีย เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ แต่อ้างว่าครอบครัวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับการหลอกลวงหรือกระทำผิดครั้งนี้ด้วย มีเพียงตนเองและอดีตรองปลัด อบต.แห่งหนึ่ง ร่วมกันในการหลอกลวงเท่านั้น ส่วนเงินที่ได้จากการหลอกลวง ตนเองได้นำไปใช้จ่ายและลงทุนเทรดทองหมดแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้นำไปเล่นการพนัน สามารถตรวจสอบบัญชีธนาคารได้
...
แต่เมื่อทีมข่าวสอบถาม น.ส.ออย ว่าอยากจะพูดหรือขอโทษผู้เสียหายหรือไม่ และครอบครัวเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดครั้งนี้ด้วยหรือไม่ น.ส.ออย ก็ไม่ตอบคำถาม
ขณะที่แรงงานและญาติแรงงานที่ถูกหลอกได้รับความเสียหาย เมื่อทราบว่ามีการจับกุม น.ส.ออย ตัวการสำคัญ ต่างเดินทางมาที่ สภ.พุทไธสง เพื่อมาขอดูหน้าผู้ต้องหา พร้อมตะโกนให้ผู้ต้องหาคืนเงินที่หลอกลวงไปทั้งหมด เพราะเดือดร้อน หลายคนต้องไปกู้ยืมเงิน ขายทอง และขายวัว เพื่อนำเงินไปจ่ายเป็นค่าดำเนินการ ทั้งนี้ผู้เสียหายไม่เชื่อว่า น.ส.ออย จะก่อเหตุเพียงคนเดียวตามที่กล่าวอ้าง เชื่อว่าครอบครัว และอดีตรองปลัด อบต.มีส่วนในการหลอกลวงด้วย ก็อยากให้อายัดทรัพย์สินขายทอดตลาดมาคืนผู้เสียหายทุกคนด้วย
ขณะที่ทางตำรวจก็เตรียมสอบสวนขยายผล ดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่ออายัดทรัพย์สินมาขายทอดตลาดคืนแก่ผู้เสียหายต่อไปด้วย