บช.น.เร่งหาข้อมูลผู้มีพระคุณ “จ่าเอ็ม” มือปืนรับจ้างสังหาร “ลิม คิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา คาดอยู่ต่างประเทศ พร้อมประสานตำรวจสากลขอหมายแดงตามล่าตัวคนชี้เป้าแล้ว
จากกรณีทางการกัมพูชาส่งตัวนายเอกลักษณ์ หรือจ่าเอ็ม แพน้อย อายุ 41 ปี อดีตทหารเรือ มือปืนรับจ้างสังหารนายลิม คิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา มาดำเนินคดีในไทย ชุดสืบสวน บช.น. ไปรับตัวที่ด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ควบคุมตัวขึ้น ฮ. บินด่วนมาลงที่ท่าแร้ง กทม. นำตัวไปสอบปากคำขยายผลจับกุมผู้ร่วมทีมสั่งตาย ที่ สน.ชนะสงคราม โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. นั่งหัวโต๊ะร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนสอบปากคำ
ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้นำตัว จ่าเอ็ม มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญาเป็นเวลา 12 วัน ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตฝากขังได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 มกราคม 2568 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.เปิดเผยหลังร่วมประชุมกับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และชุดสืบสวนคลี่คลายคดีเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ว่า ขณะนี้กำลังขยายผลเรื่องของเส้นทางการเงิน และตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือของนายเอกลักษณ์ หรือจ่าเอ็ม ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง หากได้ข้อมูลมาแล้วจะส่งต่อให้ชุดสืบสวนวิเคราะห์หาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลใดบ้าง ผู้มีพระคุณที่จ้างวานให้ก่อเหตุ
“นายเอกลักษณ์ ยังให้การที่ไม่เป็นประโยชน์ บุคคลคนนี้น่าจะเป็นผู้มีพระคุณมาก นายเอกลักษณ์ถึงยอมทำให้ คาดว่าน่าอยู่ในต่างประเทศ แต่จะเป็นคนสัญชาติใดนั้น ขอให้ทางชุดสืบสวนตรวจสอบรายละเอียดให้เกิดความชัดเจนก่อน ส่วนจะเกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ รวมทั้งมูลเหตุในจูงใจในการก่อเหตุ ยังไม่มีความชัดเจน ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ผู้ต้องหาเป็นแค่ผู้ถูกใช้งานเท่านั้น จึงไม่รู้ข้อมูลอะไรมากนัก”
...
ส่วนนายคิม สะลินพิส ชาวกัมพูชา คนชี้เป้า ขณะนี้ได้ออกหมายแดงให้ตำรวจสากล ตำรวจกัมพูชา จับกุมส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย
ถามว่า ผู้มีพระคุณ จ้างวานมือปืน เป็นคนที่เคยร่วมงานมาก่อน หรืออยู่ใต้บังคับบัญชามาก่อน หรือว่าเป็นคนมีสีหรือไม่ ผบช.น. ตอบว่า “เป็นบุคคลที่มีบุญคุณกับเขามาก เขาต้องตอบแทนบุญคุณ”