กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จี้ “บิ๊กต่าย” เร่งโรงพยาบาลตำรวจ ส่งเวชระเบียน “ทักษิณ” ขู่ยกระดับชุมนุม 21 ม.ค. หากไม่ได้รับคำตอบ

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.), ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. รวมตัวชุมนุมเข้ามาสอบถามกรณีที่แพทยสภาได้ทำหนังสือถึงโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อเดือน ธ.ค. ขอหนังสือแจ้งอาการป่วย และเวชระเบียนของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เข้าและออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ขณะนั้นเป็นผู้ป่วยรักษาตัวที่ชั้น 14 ครบกำหนดวันที่ 15 ม.ค. การทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร กลับมายังคณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจของแพทยสภา โดยมีกำลังตำรวจ บก.น. 6 จำนวน 30 นาย ตำรวจสันติบาล 20 นาย และตำรวจ สน.ปทุมวัน 10 นาย ดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกการจราจรด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

รายงานบรรยากาศด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีกลุ่มมวลชนสวมใส่เสื้อสีเหลืองพร้อมมือตบ ป้ายข้อความต่างๆ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้มีการเปิดเผยประวัติการรักษาของอดีตนายกรัฐมนตรี

...

จากนั้นนายพิชิต ไชยมงคล และนัสเซอร์ ยีหมะ นายใจเพชร กล้าจน แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) และกองทัพธรรม ได้ยื่นหนังสือ โดยมี พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมย์ รอง ผบก.สทส. นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับหนังสือ

นายพิชิต เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาเรียกร้องให้ ผบ.ตร. เร่งรัดในการติดตามส่งเวชระเบียนประวัติการรักษาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาให้แพทยสภา ซึ่งจะครบกำหนดภายในอีก 2 วัน เบื้องต้นวันนี้จะไม่มีการพักค้างแรมที่ด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้มีการติดตามทวงถามความคืบหน้ามาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไป และหากครบกำหนดแล้วตัวเองจะเดินทางไปที่แพทยสภา เพื่อสอบถามว่าได้รับเอกสารดังกล่าวแล้วหรือไม่ และหากพบว่ายังไม่ได้รับคำตอบหรือข้อมูล ทางกลุ่มจะยกระดับเดินทางไปสอบถามข้อมูลกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 21 ม.ค. เพราะมองว่านางสาวแพทองธาร เป็นผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งเรื่องดังกล่าวอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่กลับไม่มีคำตอบ

นายพิชิต เปิดเผยว่า ในฐานะที่นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องมีคำชี้แจง อีกทั้งเวชระเบียนประวัติผู้ป่วยมีความสำคัญมาก เพราะมีความสำคัญในการพิสูจน์ประวัติการรักษาที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. หรือแพทยสภา นำไปพิสูจน์ทราบข้อกล่าวหาของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกกล่าวหาก่อนหน้านี้ พร้อมยืนยันว่า การเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้เป็นการเรียกร้องเพื่อให้ต้องการนำข้อมูลมาเปิดเผยกับกลุ่ม แต่เป็นการเรียกร้องเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลได้อย่างชัดเจน

นายใจเพชร กล่าวว่า วันนี้ตัวเองพร้อมผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 70 คนได้เดินทางมาเป็นกำลังใจให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อผดุงความยุติธรรมดูแลความสงบสุขของประเทศชาติ เพราะหากประเทศไม่มีความยุติธรรม ก็จะไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ ส่งผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจ แต่หากกระบวนการยุติธรรมถูกรักษาไว้ทุกฝ่ายก็จะมั่นใจ เพราะตัวเองมองว่ากรณีนี้ หากนายทักษิณมีความบริสุทธิ์ใจจริงก็จะต้องส่งข้อมูลการรักษามาให้ตามการร้องขอ แต่หากไม่ส่งแสดงว่ามีความไม่ซื่อสัตย์ต้องเข้าข่ายกระทำความผิด โดยหากไม่มีความคืบหน้าทางกลุ่มจะยกระดับการทำหน้าที่ อาจจะมีการพักแรมที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล จนกว่าจะเกิดความยุติธรรมในประเทศไทย

เบื้องต้นมีการพูดคุยกับทุกกลุ่ม หากพบว่าความยุติธรรมถูกแทรกแซง จะต้องมีกระบวนการในการติดตามยุติธรรมต่อไป ซึ่งส่วนตัวมองว่าการชุมนุมในครั้งนี้ไม่ได้มองที่จำนวนผู้มาเข้าร่วม แต่มองว่าความสำเร็จคือเกิดความยุติธรรมขึ้นในกระบวนการยุติธรรม

ภายหลังการยื่นหนังสือนายพิชิต พูดคุยกับกลุ่มมวลชนที่มาร่วมแสดงจุดยืนที่ด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนที่จะมีการสลายตัวแยกย้ายกัน และได้นัดหมายกันใหม่ในวันที่ 15 ม.ค. ที่แพทยสภาเพื่อสอบถามความคืบหน้า

...