คืบคดีคนจีนปล้นเงินเพื่อนร่วมชาติ แลกเหรียญคริปโต จับได้แล้ว 2 ราย ขณะที่ "นายเฉิน" คนกลาง พบว่าออกนอกประเทศไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคนร้ายชาวจีนหลอกเหยื่อเพื่อนร่วมชาติ นัดหมายซื้อขายเงินคริปโต หรือเงินดิจิทัล ก่อนเชิดเงินเหยื่อหลบหนี เหตุเกิดตอนบ่ายวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ 2 รายซ้อน รายแรก สูญเงินสดไป 5 ล้านบาท เหตุเกิดที่ร้านภายในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 คนร้ายมี 3 คน วิ่งราวกระเป๋าใส่เงินขึ้นรถอัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน ขล 2233 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป ฝ่ายสืบสวนพบแต่รถจอดอยู่ที่สวนสุขภาพแต้จิ๋ว ย่านยานนาวา กทม. แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ รายที่ 2 สูญเงินสดไป 8 ล้านบาท เหตุเกิดที่อาคารแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 ผู้ก่อเหตุมี 4 คน จับได้แล้ว 2 คน พร้อมเงินสดอยู่ครบ
ต่อมาที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อเวลา 23.50 น. พ.ต.อ. ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า คดีวิ่งราวเงิน 5 ล้านบาท ฝ่ายสืบสวนสน.ห้วยขวาง และกก.สส.บก.น.1 ติดตามไปยังตึกแถวเลขที่ 193/1 ถนนเย็นจิต แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. อยู่ใกล้กับรถอัลพาร์ด จากการตรวจค้นพบเงินสดที่ถูกวิ่งราวไป ตรวจสอบเงินพบว่าขาดไป 2,000 บาท ค้นหาภายในตึกไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ ตึกดังกล่าวกลุ่มชาวจีนเช่าไว้ 2 ปีแล้ว รถอัลพาร์ดนำมาที่ สน. แล้ว พร้อมยึดไว้เป็นของกลางก่อน เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนเส้นทางหนีของคนร้ายได้ข้อมูลบ้างแล้ว ผู้เสียหายแจ้งว่าไม่ได้ถูกทำร้าย หรือพันธนาการ เขากระโดดลงมาจากชั้น 2 เพื่อตามเงินคืนทำให้มีแผลบ้าง กรณีมีข่าวว่าโดนเข็มขัดรัดที่ข้อมือไม่ทราบขอตรวจสอบก่อน
ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีคนร้ายฉ้อโกงเงินเหยื่อ 8 ล้านบาท เป็นเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันนัดมาพบเพื่อแลกเปลี่ยนเงินสดเป็นเงินดิจิทัล ผู้เสียหายตรวจสอบไม่พบเงินดิจิทัลถูกโอนเข้าบัญชีแต่ฝ่ายคู่กรณียืนยันว่าโอนให้แล้วเอาเงินไป คดีนี้ยึดเงินของกลาง 8 ล้านบาท มาได้และเก็บไว้เป็นของกลาง จนกว่าทำสำนวนคดีแล้วเสร็จถึงคืนให้ผู้เสียหาย
...
“จากการตรวจสอบทั้ง 2 คดี พบว่ามี นายเฉิน เป็นคนกลางติดต่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายนัดเจอแลกเปลี่ยนเงินกัน บางครั้งนายเฉินก็ไม่ได้ไปด้วย ก่อนหน้านี้มีการซื้อขายกันได้จริง เริ่มต้นซื้อขายหลักแสนบาท ผู้ขายได้โอนเงินดิจิทัลให้นายเฉินก่อน จากนั้นนายเฉินโอนให้ผู้ซื้อเพื่อทำให้เกิดความเชื่อใจ กระทั่งล่าสุดซื้อขายเป็นเงินจำนวนสูง นายเฉินกลับไม่โอนเงินดิจิทัลให้ผู้ซื้อ เหมือนจงใจวางอุบายไว้ ตรวจสอบพบว่านายเฉินเดินทางออกจากประเทศไทยไปมาเก๊า เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ตัวไม่ได้อยู่ในวันเกิดเหตุ ใช้วิธีติดต่อทางเทเลแกรมที่มาเก๊า ผู้เสียหายคดี 8 ล้านบาท เคยแอบถ่ายรูปนายเฉิน เมื่อนำรูปถ่ายให้ผู้เสียหายคดี 5 ล้านบาทดู ยืนยันว่าคนกลางที่ติดต่อเป็นนายเฉินเช่นกัน” ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าว
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวต่อว่า คดี 5 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนมาสอบปากคำ ที่จริงถือเป็นผู้เสียหายเพราะเป็นเจ้าของเงินดิจิทัล แต่การกระทำมีความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ขอให้มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ล่าสุดฝ่ายสืบสวนประสานข้อมูลสน.มักกะสัน ตรวจสอบอีกคดีที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันวันเดียวกันกับที่ สน.ห้วยขวาง ผู้เสียหายนัดซื้อเงินดิจิทัล 4.5 ล้านบาท ปรากฏว่าคนร้ายไม่โอนให้ เบื้องต้นคนกลางเป็นคนละคน แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบบัญชีว่า เกี่ยวข้องเป็นเดียวกับนายเฉินหรือไม่