ผบก.ภ.จว.สุรินทร์พร้อมด้วย ผอ.โรงพยาบาล พยาบาลผู้อยู่ในเหตุการณ์ แถลงเหตุยิงดับผู้ป่วยคลั่ง ยันให้ความเป็นธรรมกับ 2 ฝ่าย เบื้องต้นตั้งข้อหาตำรวจ 2 นาย "ฆ่าผู้อื่น โดยอ้างว่าอยู่ในการปฏิบัติหน้าที่"

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 มกราคม 2568 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองสุรินทร์ พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนายแพทย์ชวมัย สืบนุการณ์ ผอ.โรงพยาบาลสุรินทร์ และพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุทั้ง 2 นาย เข้าร่วมแถลงต่อสื่อมวลชน ในกรณีเหตุการณ์ที่มีชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุภายในอาคาร 9 ชั้น 4 ของโรงพยาบาลสุรินทร์ เมื่อวานนี้ช่วงบ่าย 2 เศษ ซึ่งตำรวจสายตรวจ 191 ได้เข้าไประงับเหตุ

โดยขณะนั้นมีทั้งแพทย์ พยาบาล ผู้ป่วยและญาติจำนวนมากวิ่งหนีออกมาจากชั้น 4 มาหลบตรงระเบียงบันได เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยเสาน้ำเกลือได้ทุบทำลายสิ่งของของ รพ.สุรินทร์ ก่อนทุ่มถังดับเพลิงใส่ ผู้ป่วยที่นอนติดเตียงโชคดีไม่ระเบิด ก่อนดึงขวานขนาดใหญ่ซึ่งใช้สำหรับดับเพลิงทำลายสิ่งกีดขวางออกมา

...

เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามออกคำสั่งให้วางอาวุธถึง 3 ครั้ง ก่อนถอยหล่นออกมา แต่ผู้ก่อเหตุยังคลุ้มคลั่งอย่างรุนแรงปรี่เข้าหาเจ้าหน้าที่ 2 นาย จึงต้องใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสกัดยับยั้งผู้ก่อเหตุ เพื่อป้องกันตัว ถูกที่ขา มือ หน้าท้องและอก ก่อนสงบลง แพทย์พยาบาลจึงรีบเข้าช่วยเหลือนำตัวเข้าการรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ด้วยระยะประชิดถูกจุดสำคัญ ผู้ก่อเหตุจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม ตนเองได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.กิติเชษฐ์ ศักยภาพวิชานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรสุรินทร์ เป็นหัวหน้าชุดในการสอบสวนคดี และให้ พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ เข้าไปคุยกับญาติผู้เสียชีวิต

ในด้านมนุษยธรรม ตนเองจะให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย รวมถึงค่าทำศพ ในส่วนของรูปคดีนั้น ทั้งกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาล ขอให้เป็นไปในรูปของการสอบสวน ส่วนการใช้ยามอร์ฟีนนั้นเป็นเรื่องปกติของการผ่าตัด

อย่างไรก็ตาม จะทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่ สภ.เมือง ให้กระชับขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าเป็นไปด้วยดี ส่วนเรื่องผู้ป่วยจิตเวชมีข้อมูลว่ามีผู้ป่วยถึง 10,000 ราย แบ่งเป็นเขียว เหลือง แดง

ส่วนการเกิดเหตุครั้งนี้ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เนื่องจากมารดาอยู่ในเหตุการณ์ยังวิ่งหนีออกมา ดังนั้นเรื่องการติดใจการระงับเหตุจนทำให้ลูกชายเสียชีวิตก็เป็นธรรมดา ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน โดยได้ตั้งข้อหาเบื้องต้นกับตำรวจ 2 นาย "ฆ่าผู้อื่น โดยอ้างว่าอยู่ในการปฏิบัติหน้าที่"

นายแพทย์ชวมัย สืบนุการณ์ ผอ.โรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตได้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุรินทร์ด้วยอาการไส้ติ่งอักเสบ และได้ทำการผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมกับส่งตัวมาที่อาคารพักฟื้นเพื่อดูอาการ ซึ่งทางผู้เสียชีวิตมีอาการปวดแผลที่ผ่าตัดมา เจ้าหน้าที่พยาบาลก็ได้ฉีดยาแก้ปวดให้และได้นำเตียงผู้ป่วยมาที่หน้าห้องพยาบาลเพื่อจะได้ดูอาการและสังเกตผู้ป่วยได้ แต่ในขณะที่ผู้ป่วยนอนอยู่ที่เตียงก็ได้ลุกขึ้นมาแล้วเอะอะโวยวาย พยาบาลจึงแจ้ง รปภ.ให้เข้ามาระงับเหตุ

แต่พอผู้เสียชีวิตเห็น รปภ.เข้ามา จึงดึงสายน้ำเกลือออก และได้นำช่วงที่เป็นปลายเข็มน้ำเกลือถือจ่อไปข้างหน้าไม่ให้เข้ามา โดยทางแม่ผู้เสียชีวิตได้รีบออกไปอยู่หน้าห้องตึก จากนั้นพยาบาลรีบนำผู้ป่วยเด็กที่พอจะขยับตัวได้หนีเข้าห้องน้ำ โดยมีผู้เสียชีวิตตามไป

ต่อมาพยาบาลได้ยินเสียงกระจกแตกและได้สังเกตเห็นผู้เสียชีวิตได้ถือขวานและเดินมาทุบกระจกประตูที่เป็นช่องแตกพร้อมกับพยายามจะดึงประตูที่พยาบาลและผู้ป่วยเด็กหลบอยู่ แต่ก็มีญาติผู้ป่วยเด็กดันไว้ ทางโรงพยาบาลจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงสักพักก็ได้ยินเสียงคล้ายปืนดัง 4 นัด ซึ่งนัดแรกได้ยิงลงพื้น อีก 3 นัดเข้าที่ขาทั้งข้างและที่หน้าอกผู้เสียชีวิต ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นและเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และในวันนี้ทางโรงพยาบาลจะเดินทางไปเป็นเจ้าภาพงานศพ และพรุ่งนี้ฌาปนกิจโรงพยาบาลเองก็จะไปเข้าร่วมอีกด้วย

...

ด้านเจ้าหน้าที่พยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เล่าว่า เหตุที่น่าจะทำให้ผู้ตายคลุ้มคลั่งนั้น น่าจะมาจากการเจาะเข็มน้ำเกลือใหม่ ทำให้ผู้ตายเกิดความไม่พอใจและคลุ้มคลั่งบวกกับมีอาการติดสุรา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทรัพย์สินของโรงพยาบาลที่ถูกคนไข้ทำลายเสียหาย ได้แก่

1. EKG monitor จำนวน 1 เครื่อง
2. กระจกห้องพักแพทย์
3. กระจกห้องล้างเครื่องมือ
4. เก้าอี้หัวกลม 1 ตัว
5. ถังดับเพลิงจำนวน 1 อัน
6. กระจกตู้สายฉีดน้ำดับเพลิง
7. โทรศัพท์มือถือของผู้ช่วยเหลือคนไข้ จำนวน 1 เครื่อง
8. ประตูห้องล้างเครื่องมือ
9. เตียงโฟมคนไข้ 1 อัน