ผู้การปราจีนฯ ลงพื้นที่ติดตามคดีตำรวจยิงสิบเอก หน่วยทหารพัฒนาภาค 1 ตายคารีสอร์ต อ.กบินทร์บุรี ก่อนหลบหนี หลังผู้ตายเข้าพักและลืมกุญแจ ก่อนโทร.ไปต่อว่าภรรยาผู้ยิงซึ่งเป็นเจ้าของ จนออกมาเคลียร์แล้วเกิดชกต่อยจนนำไปสู่การใช้อาวุธปืน ล่าสุดได้ออกหมายจับแล้ว
จากกรณี ส.อ.เสรี มณีโชติ อายุ 36 ปี สังกัดกองสนับสนุนและขยายพันธุ์สัตว์ สำนักงานทหารพัฒนา ภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (กปร.) อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ถูกยิงตายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 1 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังจากเปิดห้องพักกลางดึก ช่วงเช้าผู้ตายกำลังพักอยู่ในห้องพัก ได้มีหญิงสาวเจ้าของรีสอร์ตมาเรียกและเกิดการทะเลาะวิวาทกันถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน จากนั้นมีชายที่นั่งรอในรถยนต์อีซูซุ รุ่น MU-X สีดำ ได้ลงมาจากรถ เดินตรงเข้าไปใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงระยะเผาขน 2 นัด จนทำให้ ส.อ.เสรี ล้มทั้งยืน นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด เสียชีวิตคาที่ มือปืนก็วิ่งขึ้นไปขับรถกระบะ TOYOTA วีโก้ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับหลบหนีไปนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ 19 ส.ค. 67 พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้เดินทางมาที่ สภ.กบินทร์บุรี เพื่อติดตามคดี โดยได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมเพื่อรับทราบรายงาน จากการรายงานของชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี ทราบว่าหลังเกิดเหตุได้ลงพื้นที่ติดตามกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี ไปตามเส้นทางถนนสายสุวรรณศร มุ่งหน้าเข้าไปที่ดอนเมืองเพื่อหาภรรยาเก่า ใช้เวลาอยู่ที่นั่นประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็หลบหนีต่อไป
ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ตำรวจก็ทำงานกันอย่างเข้มข้น ทำอย่างเร่งด่วน จนได้หมายจับเมื่อวานนี้ จากนั้นเราก็ติดตามตัวกันอย่างเข้มข้น ติดตามทุกช่องทางทั้งภรรยา ผู้ร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา แต่ก็ยังตามไม่ได้ ก็ต้องทำต่อไป วันนี้มาเร่งรัดติดตามคดี มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ มีแต่ข่าวว่าจะมอบตัวแต่ก็ยังไม่มอบ เราก็ได้ติดต่อกับทางผู้บังคับบัญชาเขาอยู่ ติดต่อหลายช่องทาง แต่เราไม่รอ หมายจับก็ออกเรียบร้อยแล้ว
...
ส่วนสาเหตุเท่าที่ทราบตอนนี้ที่ค่อนข้างชัดเจนก็คือคงมีปากเสียงกัน คนตายก็เคยมีเรื่องและมาพักที่รีสอร์ตนี้หลายครั้ง มาใช้อารมณ์กับคนดูแลอยู่บ่อยๆ พอดีวันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุมาอยู่กับภรรยาเขา ผู้ตายก็โทร.มาต่อว่าภรรยาที่เป็นเจ้าของรีสอร์ต เจ้าตัวก็อาจจะได้ยินก็เลยโมโหมาที่รีสอร์ต พอมาก็มีปากเสียงกันต่ออีก ลงมือชกต่อยกัน สุดท้ายก็เลยเถิดถึงขั้นใช้อาวุธปืน ผู้ตายมาเปิดห้องพัก เช้าก็มาดื่มกาแฟและเดินเล่น พอจะเข้าห้องประตูล็อกไว้แล้วลืมเอากุญแจออกมา เข้าห้องไม่ได้ เลยให้ผู้ดูแลมาเปิด ผู้ดูแลก็เปิดไม่ได้ก็เลยหงุดหงิดให้ผู้ดูแลโทร.ไปหาเจ้าของ เขาขอเวลา 20 นาที ทางนี้ก็บอกนานไป ก็เลยโทรไปต่อว่าเจ้าของที่เป็นภรรยาของผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุคงได้ยินด้วยก็เลยมาแทนภรรยา เมื่อมาถึงก็มีปากเสียงกับผู้ตาย ลงมือชกต่อยกันและเลยเถิดถึงขั้นใช้ปืนยิงกัน
ส่วนที่มีข่าวว่าผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ก็ต้องสืบสวนในเชิงลึกต่อไป ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ยิงยังไม่ทราบขนาด เนื่องจากกระสุนฝังใน ต้องรอผลจากนิตเวช และในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุน คดีนี้ก็ไม่เกินความสามารถของตำรวจ จะตามจับตัวมาให้ได้ และไม่เกี่ยวกับว่าคนก่อเหตุเป็นตำรวจ ใครก็ตามที่กระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี ตอนนี้คดีก็จบไปแล้วส่วนหนึ่ง เหลือแค่ตามจับมาให้ได้ ส่วนผู้ต้องหาเป็นตำรวจรู้ทิศทางการหลบหนีนั้น โทรศัพท์ของผู้ก่อเหตุไม่ได้นำติดตัวไป ถ้าทราบข่าวก็ให้มามอบตัว เราจะให้ความเป็นธรรม ท่านหนีไปก็หนีถึง 20 ปี หนีไปก็ไม่มีความสุข ขอให้มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม.