ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ตัดสินประหารชีวิต คดียิงถล่มเสี่ยมาเลย์ดับคาเบนซ์ ล้างหนี้ 120 ล้าน บนถนนกาญจนวณิชย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยยืนตามศาลชั้นต้น


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ส.ค. 67 ที่ศาลจังหวัดสงขลา 1 ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ได้อ่านคำพิพากษาคดีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มนายลี อา ฮาน อายุ 44 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวมาเลเซีย เสียชีวิตคารถเบนซ์ S300 สีดำ ทะเบียน 1 ฌ 1 กทม. และนางมยุรี ทิพย์มณี อายุ 42 ปี ภรรยาที่นั่งมาด้วย ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.22 น. วันที่ 4 ธ.ค. 2558 บนถนนกาญจนวณิชย์ บริเวณสี่แยกคลองปอม หมู่ 8 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  


โดยคดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ได้พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ประหารชีวิตทีมสังหารยกทีม ยกเว้นคนขับและคนยิงจำคุกตลอดชีวิต


โดยตัดสินประหารชีวิต นายอภิชน แซ่โล้ว หรือเสี่ยชน (คนรับงานฆ่า) จำเลยที่ 1 นายยุทธศักดิ์ กล้ามาก (คนขับรถกระบะ) จำเลยที่ 3 นายตัน วุน เจ้น (ผู้จ้างวาน) จำเลยที่4 นายธนเดช เงี่ยมตัน (ขับรถกระบะฟอร์ด) จำเลยที่ 6 ส่วนนายเอกพล อินทร์แก้ว อดีทหาร (มือปืน) จำเลยที่ 2 และนายชินพัฒน์ พิทักษ์ไทย (คนขับรถให้มือปืน) จำเลยที่ 5 จำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากให้การรับสารภาพ

...

 

ทั้งนี้ แม้ว่านายเอกพล มือปืน และนายชินพัฒน์ คนขับรถ ซึ่งทีแรกจะหลบหนีไประหว่างประกันตัวชั้นศาล แต่ต่อมานายเอกรินทร์ ถูกตำรวจภาค 8 จับกุมตัวได้เมื่อเดือนพฤษภาคม 67 ขณะหลบหนีไปอยู่ในสวนปาล์มที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนนายชินพัฒน์ จนถึงขณะนี้ยังคงหลบหนีอยู่


คดีนี้ย้อนหลังไปเมื่อวันที่เกิดเหตุ 8 ธ.ค. 58 ชุดสืบสวนคดีนี้ ซึ่งนำโดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผกก.สืบสวน ภ.จว.สงขลา ในขณะนั้น พร้อมทีมงาน และ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. ในขณะนี้ ได้ร่วมกันสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถคลี่คลายคดี และจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้ยกทีม 6 คน โดยมีสาเหตุมาจากการฆ่าล้างหนี้ ประมาณ 120 ล้านบาท ระหว่างผู้ตายกับนายตัน วุน เจ้น ชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ใช้จ้างวาน ที่สำคัญนายอภิชน แซ่โล้ว หรือเสี่ยชน ซึ่งเป็นคนรับงานฆ่า ยังเป็นพ่อตาของนายตัน วุน เจ้น คนจ้างวานอีกด้วย

 

และในทางการสืบสวนพบว่านายลี อา ฮาน เสี่ยมาเลย์ ผู้ตาย ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องสาวของนายอภิชน หรือเสี่ยชนด้วย โดยผู้ตายได้แอบถ่ายคลิปขณะมีอะไรกันเพื่อแบล็กเมล และได้ขอซื้อที่ดินแปลงหนึ่งในราคา 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่นำมาสู่การสั่งตายเสี่ยมาเลย์รายนี้

 

โดยก่อนลงมือมีการวางแผนเป็นอย่างดี ใช้รถกระบะและรถเก๋งรวม 3 คัน ทั้งรถสำรวจเส้นทาง รถติดตาม และรถมือปืนที่ลงมือยิงถล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สามารถตามยึดรถทั้งสามคันได้ครบ แต่ในชั้นการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ แต่ด้วยความเชี่ยวชาญในการรวบรวมพยานหลักฐาน และการทำคดีมือปืนและคดีอุกฉกรรจ์ของ พ.ต.อ.ศักดา และทีมงาน ทำให้สามารถนำสืบให้ศาลเห็นว่า กลุ่มคนร้ายที่จับกุมมาเป็นทีมฆ่าผู้ตายเพื่อล้างหนี้สินมากกว่า 120 ล้าน ตามพยานหลักฐานที่ตรวจสอบมาได้

 

และคดีนี้นอกเหนือจากพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว ระหว่างที่ทั้งหมดถูกจับกุม นายเอกพล มือปืน และนายชินพัฒน์ คนขับรถ ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้รายละเอียดทั้งหมดของคดีว่าเป็นมาอย่างไร เพราะถูกคนจ้างทอดทิ้ง ไม่เหลียวแลในการต่อสู้คดี จึงนำมาสู่คำพิพากษาทั้งศาลชั้นต้นที่ตัดสินคดีนี้เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 66 และศาลอุทธรณ์ที่ตัดสินคดีในวันนี้ ยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ประหารชีวิตทีมสังหารยกทีม ยกเว้นคนขับและคนยิง จำคุกตลอดชีวิต.

...