โฆษก สภ.ขนอม ภ.จว.นครศรีธรรมราช ร่อนเอกสารชี้แจงปม พ.ต.ท.สังกัดไซเบอร์ ร้องสื่อคดีอืด หลังแจ้งความอดีต ผกก.บุกรุกที่ ระบุยังไม่ได้ให้รายละเอียดข้อเท็จจริง ประกอบข้อกฎหมายที่ครบถ้วน

จากกรณีสำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์ ระบุข้อความว่า ตำรวจโดนเอง พ.ต.ท.สังกัดไซเบอร์ ร้องสื่อคดีอืด หลังแจ้งความอดีต ผกก.บุกรุกที่นั้น

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สั่งการให้ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ รามสวัสดิ์ ผกก.สภ.ขนอม ตรวจสอบและรายงานผลโดยด่วน ซึ่ง สภ.ขนอม ได้ทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าว และได้รายงานผลการตรวจสอบดังนี้

กรณี พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เสือทอง รอง ผกก.(สอบสวน) บก.สอท.5 ร้องสื่อฯ ว่าคดีอืด หลังแจ้งความอดีต ผกก.บุกรุกที่ดิน พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีนายตำรวจข้าราชการบำนาญ ยศ พ.ต.อ.อ้างว่าเป็นที่ดินของตน โดยนายตำรวจรายนี้มาซื้อที่ดิน นส.3 ก. ที่อยู่แนวลำห้วยสาธารณะ แต่กลับอ้างครอบครองล้ำข้ามมาจนเกิดข้อพิพาทกับตนเองนั้น สภ.ขนอม ขอชี้แจ้งข้อเท็จจริงทางคดี ดังนี้

1. ที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 3526 เล่ม 76 ก. หมู่ที่ 7 ต.ขนอม อ.ขนอม เนื้อที่ 18 ไร่ 2 งาน 30 ตารางวา ซึ่งมีข้าราชการบำนาญ ยศ พ.ต.อ. เป็นผู้มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ ซึ่ง พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ อ้างว่า ครอบครองทับซ้อนกับที่ดินที่ตนครอบครอง และทำการสอบสวนได้ความว่า ที่ดิน น.ส.3 ก.ดังกล่าว ข้าราชการบำนาญ ยศ พ.ต.อ. ได้ซื้อต่อจาก นายธำรงค์ เสือทอง บิดาของ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2536 แต่ยังคงให้ นายธำรงค์ ดูแลเก็บผลอาสิน เพื่อแลกกับการดูแลที่ดินแปลงดังกล่าวไม่ให้เสื่อมสภาพ กระทั่งประมาณปี พ.ศ. 2565 ข้าราชการบำนาญ ยศ พ.ต.อ. ได้เข้าไปปรับปรุงพื้นที่ที่ดินแปลงดังกล่าวเพื่อขายต่อ จนเกิดเหตุข้อพิพาทในครั้งนี้

...

2. พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำที่ดินข้างเคียง ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่รังวัด ก็ยังไม่สามารถระบุแนวเขตได้อย่างชัดเจน เนื่องจาก พ.ต.อ.เดชชาภากร ผู้มีชื่อใน นส.3 ก. ได้ยกเลิกการรังวัด

3. ผู้ที่จะขอรังวัดที่ดินได้นั้น จะต้องเป็นผู้มีสิทธิ์ในที่ดินและเป็นผู้มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน โดยต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะมีอำนาจดำเนินการรังวัดได้โดยชอบด้วยกฎหมาย แม้พนักงานสอบสวนจะขอความร่วมมือให้เจ้าพนักงานที่ดินไปทำการรังวัดที่ดินที่พิพาท ก็ไม่สามารถกระทำการได้

4. ที่ดินที่ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ อ้างว่าครอบครองและทำประโยชน์โดยไม่มีเอกสารสิทธิ์ ผู้ครอบครองที่ดินมือเปล่าต้องยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อก่อให้เกิดสิทธิ์การครอบครอง ศาลจะมีคำสั่งให้สำนักงานที่ดินไปทำการรังวัด และทำแผนที่พิพาท เพื่อให้ศาลพิจารณาได้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ก็ทราบดีอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นถึงรองผู้กำกับการสอบสวน มีความรู้ทางกฎหมายระดับชำนาญการ

5. กรณี พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ อ้างสมุดทะเบียนเกษตรกรซึ่งระบุการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตร พนักงานสอบสวนตรวจสอบ พบว่ามีชื่อ นางสาวอรุณรัตน์ เสือทอง เป็นผู้ขึ้นทะเบียน จะได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป

6. การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดี มีข้อมูลเพิ่มเติมจากคู่กรณีเป็นระยะ เนื่องจากเป็นกรณีที่คู่กรณียังยืนยันว่า เป็นผู้มีสิทธิ์ในที่ดินที่ทับซ้อนในแปลงที่พิพาท รวมถึงทรัพย์ในที่ดินดังกล่าวนั้น

7. ที่ดิน น.ส.3 ก. แปลงดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบจากสำนักงานป่าไม้ ว่าบริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่ป่าไม้หรือไม่ ประชาชนทั่วไปสามารถครอบครองและทำประโยชน์ได้หรือไม่ อย่างไร

8. การที่ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ให้ข้อมูลผ่านสื่อมวลชน ยังไม่ได้ให้รายละเอียดข้อเท็จจริง ประกอบข้อกฎหมายที่ครบถ้วน กล่าวอ้างเพียงว่าครอบครองและทำประโยชน์เรื่อยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินที่พิพาทใดมาประกอบ

9. เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ใดมีสิทธิ์ดีกว่ากันในที่ดินที่ทับซ้อน ข้อเท็จจริงจึงยังไม่ยุติว่าที่ดินที่ทับซ้อนเป็นของผู้ใด ฝ่ายใดเป็นผู้บุกรุก และทรัพย์ที่อยู่ภายในที่ดินที่พิพาทเป็นของผู้ใด ทำให้เจตนาในความผิดฐานบุกรุกและลักทรัพย์ตกไป และพนักงานสอบสวนจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป พร้อมชี้แจงต่อสื่อมวลชนเพื่อให้ผู้รับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวเข้าใจในรายละเอียดและข้อเท็จจริง