พ่อของหญิงสาวแม่ลูกอ่อน ยกมือไหว้ขอโทษสังคม หลังลูกสาวสร้างเรื่องถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ เพราะอยากได้เงินไปใช้หนี้ให้แฟนคนใหม่ จนสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่หนุ่มวัย 23 ในฐานะสามี ยังงง กุเรื่องเอาเงินจากครอบครัว ไปให้ชายคนใหม่

ความคืบหน้า กรณีที่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 สิงหาคม 2567 นายกิตติมา คำพิลัง อายุ 51 ปี บิดาของน้องโม หรือนางสาวกิตติพร คำพิลัง อายุ 22 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ว่า ลูกสาวไปรับยาที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น แล้วถูกอุ้มตัวหายไป เชื่อว่าจะเป็นการลงมือของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะมีการเรียกร้องเงินจำนวน 30,000 บาท คนร้ายที่ลงมือ ให้เวลา 5 วัน หากไม่ได้เงิน ให้รอรับร่างน้องโมนั้น หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการสืบสวนหาเบาะแสกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 สิงหาคม 2567 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายกิตติมา คำพิลัง อายุ 51 ปี บิดาของน้องโม หรือ นางสาวกิตติพร คำพิลัง อายุ 22 ปี พร้อมด้วยนายพัฒนพงษ์ นิลเกตุ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 ชุมชนศรีฐาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น สามีของน้องโม เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น หลังจากทราบเรื่องว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ตามหาตัวน้องโม พบแล้ว และปลอดภัยดี

นายกิตติมา คำพิลัง อายุ 51 ปี บิดาของน้องโม กล่าวว่า รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนว่า ติดตามหาตัวลูกสาวของตนพบแล้ว อยู่ที่กระท่อมนาภายในหมู่บ้านใหม่บัวบาน หมู่ 14 ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม และนำตัวกลับมาที่ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งทราบเพียงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นการสร้างเรื่องของลูกสาวที่ต้องการเงินเอาไปใช้จ่ายส่วนตัว เท่ากับว่า ลูกสาวโกหก โกหกครอบครัว ไม่สงสารลูก และเมื่อเจอหน้ากัน ก็จะถามลูกสาวว่า คิดยังไง ทำแบบนี้ทำไม ไม่คิดถึงคนในครอบครัว ไม่คิดถึงลูกเหรอ 

...

นายกิตติมา กล่าวอีกว่า ซึ่งหลังจากตำรวจนำตัวลูกสาวมาแล้ว หากมีการแจ้งข้อหา ก็จะถามตำรวจว่า ข้อหาที่แจ้งนั้น สามารถประกันตัวได้หรือไม่ ถ้าประกันตัวได้ จะต้องใช้เงินเท่าไร ถ้าเป็นเงินประกันตัวในจำนวนที่มาก ตนและครอบครัวก็ไม่มี และก็คงไม่ได้ประกัน

ในส่วนของเรื่องที่ลูกสาวสร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อจะเอาเงินไปใช้ส่วนตัวกับแฟนคนใหม่นั้น เรื่องนี้พ่อกับคนในครอบครัวไม่ทราบเรื่องว่าลูกสาวคบกับชายคนใหม่ เพราะลูกสาวมีสามีและมีลูกแล้ว และไม่เคยพบความผิดปกติในตัวลูกสาวแต่อย่างใด อีกทั้งฝ่ายลูกเขยก็ไม่มีเรื่องอะไร จึงไม่รู้เรื่องส่วนตัวของลูกสาว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอายมาก จึงขอโทษสังคมแทนลูกสาวด้วย

ในขณะที่นายพัฒนพงษ์ นิลเกตุ อายุ 23 ปี สามีของน้องโม กล่าวว่า ไม่รู้เรื่องที่น้องโม โกหกสร้างเรื่องขึ้นมา เพราะที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตด้วยกันตามปกติ และไม่รู้สาเหตุที่น้องโมสร้างเรื่องขึ้นมา ส่วนกรณีที่ น้องโมสร้างเรื่องเพื่อเอาเงินจากครอบครัวไปใช้ส่วนตัวกับชายคนใหม่ก็ไม่ทราบเรื่องเช่นกัน เมื่อทราบเรื่องจากทางพ่อตาว่า ตำรวจเจอตัวน้องโมแล้ว ก็เลยพาพ่อตามาหาตำรวจ

พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า จากการสืบสวน พบความจริงว่า น้องโม ไม่ได้ไปรับยาให้ลูกตามที่บอกกับครอบครัว ตำรวจจึงลงพื้นที่สืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่น้องโม ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน จนพบว่า ขี่รถออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปที่ถนนเลี่ยงเมือง เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลี่ยงเมือง ตรงไปยังถนนสายขอนแก่น เชียงยืน จ.มหาสารคาม แล้วการขับขี่รถจักรยานยนต์ ก็หายไปในพื้นที่ ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงสืบสวนจากกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ตำบลกู่ทอง จนทราบว่า มีหญิงสาวขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีเทา X-MAX ไม่ติดทะเบียน เข้ามาในพื้นที่ แต่ไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนชายที่กระท่อมนาภายในหมู่บ้านใหม่บัวบาน หมู่ 14 ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม

หลังทราบพิกัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่กระท่อมหลังดังกล่าว ทราบว่าเป็นกระท่อมของชาวบ้านใหม่บัวบาน พบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ และพบกับน้องโมและเพื่อนชายวัยรุ่นอีก 5-6 คน จึงนำตัวน้องโมออกมาจากพื้นที่ดังกล่าว นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมทั้งทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่น้องโมนำติดตัวไป

จากการสอบสวน น้องโม ให้การรับสารภาพว่า เรื่องทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะสร้างเรื่องขึ้นมา เพราะอยากได้เงินไปใช้หนี้ให้แฟนคนใหม่ จึงสร้างเรื่องโกหกครอบครัวและสามีว่าไปรับยาที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ให้ลูก ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้ไปรับยา แต่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปหาแฟนคนใหม่ที่บ้านใหม่บัวบาน แล้วจึงทำการหลอกครอบครัว เพื่อให้พ่อแม่โอนเงินให้ แต่ไม่มีใครโอน เพราะยังไม่มีบัญชีธนาคาร จากนั้นก็ใช้ชีวิตกับแฟนคนใหม่ที่กระท่อมนา จนกระทั่งตำรวจตามจนพบตัว ยอมรับว่า เรื่องโกหกทั้งหมดนั้น สร้างขึ้นด้วยตัวเองเพียงคนเดียว สามีใหม่ ไม่ทราบเรื่องด้วย ส่วนการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือนั้น พบภาพที่น้องโม ใช้โพสต์ข้อความหลอกลวงทางครอบครัวอยู่ในโทรศัพท์

...

ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวอีกว่า หลังทราบรายละเอียด และน้องโม ยืนยันว่า สร้างเรื่องโกหกครั้งนี้ ทำคนเดียว ไม่มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เพียงเพราะต้องการเงินนำไปใช้หนี้ให้แฟนใหม่ จึงได้ทำบันทึกจับกุมในข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.