เจ้าหน้าที่ช่วยกันคุมตัวลูกทรพี วัย 38 ปี ก่อเหตุมาตุฆาต ฆ่าแม่บังเกิดเกล้า-มีดฟันหัวแบะ เสียชีวิตคา จยย. พบผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งป่วยทางจิต ญาติเผยประสาทหลอน เนื่องจากเสพยา
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.67 พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ นำกำลังเดินทางเข้าตรวจสอบ บริเวณคอกวัว หมู่ 5 ต.บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังได้รับแจ้งเหตุว่ามีชายคลุ้มคลั่งอาละวาด ใช้มีดฟันหัวมารดาเสียชีวิต พร้อมประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลชะอำ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานจังหวัดเพชรบุรี ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ ชายวัยกลางคน ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ทราบชื่อต่อมาคือ นายนวพล ลี่เซ่นเฮง อายุ 38 ปี นั่งอยู่บนเก้าอี้ ถือมีดและจอบตะโกนโวยวาย พูดจาไม่รู้เรื่อง ใกล้กันพบศพ น.ส.พิศวง แก่นคำ อายุ 59 ปี ผู้เป็นมารดา สภาพถูกฟันที่ศีรษะ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเมท สีน้ำเงิน ทะเบียนจังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือจึงทำการปิดล้อมพื้นที่ พยายามเกลี้ยกล่อม และเตรียมเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ
จากการสังเกต พบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการประสาทหลอน นั่งพูดคนเดียวตลอดเวลา และท้าทายตำรวจให้เข้าไปจับกุมตัว เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานแต่ไม่สำเร็จ ผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมมอบตัวและมีอากาคลุ้มคลั่ง เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจพาบุคคลที่สนิทคุ้นเคยกับผู้ก่อเหตุมาช่วยเกลี้ยกล่อม โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที ผู้ก่อเหตุจึงยอมมอบตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัว และพากลับไปสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียดที่ สภ.ชะอำ
จากการสอบสวน นางไฟ มณีฉาย ป้าของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติแล้วผู้ก่อเหตุกับแม่ (ผู้ตาย) มักไม่ค่อยถูกกัน และมักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ พักหลังผู้ก่อเหตุได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจนประสาทหลอน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังขี่ จยย.มาตามผู้ก่อเหตุกลับบ้าน กระทั่งถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายด้วยมีดและจอบจนเสียชีวิตดังกล่าว
...
ด้าน น.ส.สาวิตรี รุ่งราศรี อายุ 35 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนอยู่กินกับผู้ก่อเหตุเมื่อช่วงปลายปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน ต่อมาผู้ก่อเหตุมีอาชีพรับจ้างลงเรือประมงหาปลา เริ่มติดยาเสพติดและหนักขึ้นเรื่อยๆ จนมีอาการหลอน ตนทนไม่ไหวจึงได้เลิกรากับนายนวพลมาได้หลายปีแล้ว ทราบต่อมาว่า นายนวพล เสพยาจนสติไม่ดี ไม่มีใครว่าจ้างให้ลงเรือ และมาเกิดเหตุดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี