จากเหตุหม่อมหลวงมาอาศัยอยู่กับเมีย ในหมู่บ้านที่บึงกาฬ ยิงเบ้าตาเพื่อนบ้านทั้งที่ยกมือไหว้ขอชีวิต ก่อนยิงตัวเองหนีผิด ชาวบ้านบอกคนก่อเหตุนิสัยไม่ดี ชอบท้าตีท้าต่อย ทะเลาะกับคนไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำหมู่บ้าน 

วันที่ 5 ส.ค. เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชายอ้างตัวเป็นหม่อมหลวง เมาทะเลาะกับเพื่อนบ้านจนบานปลายมีการยิงกัน โดยคนถูกยิงคือ นายอุทัย พรมมินทร์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 ม.8 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ เสียชีวิตในสภาพสวมกางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมเสื้อ มีแผลถูกยิงเข้าบริเวณดวงตาข้างขวาทะลุออกหลัง 1 นัด ห่างออกไปราว 15 เมตร พบศพชายที่บัตรประชาชนระบุชื่อ หม่อมหลวงวันชัย สายสนั่น อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 หมู่บ้านเดียวกัน นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน สภาพสวมเสื้อคอปกสีแดง กางเกงยีนส์ขายาว มีแผลถูกยิงเข้าบริเวณขมับข้างขวา 1 นัด ใกล้ตัวผู้ตายพบปืนสั้นชนิดลูกโม่ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เหตุเกิดเมื่อเย็นวานนี้ 4 ก.ค. เวลาประมาณ 16.00 น. ในพื้นที่บ้านกลาง ม.8 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ 

เช้าวันนี้ พบว่าลูกชายทั้ง 3 คนของนายอุทัย ร่วมกับชาวบ้านทำความสะอาดบริเวณจุดเกิดเหตุ นำทรายมากลบรอยเลือด แล้วราดน้ำมันจุดไฟเผาคราบเลือดลดกลิ่นคาว  

นายสิทธิพงษ์ วงศรีชา อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุและผู้ตายเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่นานหลายปีแล้ว เรื่องน่าจะจบแต่ไม่จบ เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ยอมปล่อยวาง ผู้ก่อเหตุมาอาศัยอยู่กับภรรยาตั้งแต่ปี 2545 เป็นคนใจร้อน ไม่ยอมคน อ้างเป็นหม่อมหลวงรู้จักคนใหญ่คนโต แรกๆ ก็มีส่วนร่วมกับชาวบ้านตลอด หลังๆ มีความคิดไม่ถูกกับผู้นำชุมชน ทะเลาะเบาะแว้งกับชาวบ้านไปทั่ว อยากมีอภิสิทธิ์อยู่เหนือคนอื่น ข่มขู่จะยิงคนที่มีเรื่องด้วยประจำ วันเกิดเหตุก็มีการสังสรรค์กันที่บ้านของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะทะเลาะกับผู้ตาย

...

นางฉันอจิต ว่องไว อายุ 74 ปี แม่ยายของผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ชาวบ้านกลางสมน้ำหน้าที่มัน (วันชัย) ตาย เพราะมันข่มขู่ชาวบ้านไว้ ถ้าใครยุ่งกับกู กูจะฆ่าให้หมดทุกคน เวลาเมาก็ถือปืนออกมาท้าดวลกับชาวบ้าน กับผู้นำชุมชน เวลาผ่านหน้าบ้านก็จะด่าอีเหี้x อีสัxว์ แม้แต่ผู้หญิงมันก็ไม่เว้น ถ้าไม่ตายบ้านกลางไม่เจริญ ตายไปชาวบ้านดีใจ หมู่บ้านจะได้สูงขึ้น หลังเกิดเหตุยิงลูกเขยตนก็เดินวนรอบ ไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ แม้กระทั่งผู้ใหญ่บ้าน พร้อมขู่ใครเข้ามามึงตาย ลูกเขยยกมือไหว้ขอโทษ ขอชีวิต มันก็ไม่ฟัง และยังยิง ยอมยกมือขอชีวิตแล้วยังต้องฆ่ากันอีก หลานชาย 3 คนยังเรียนอยู่ ใครจะมาเลี้ยง

ขณะที่ นางสวนสน พรมมินทร์ อายุ 46 ปี ภรรยานายอุทัย เล่าว่า ปกติแล้วผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นหม่อมหลวงเป็นคนชอบดื่มสุราเสียงดังในหมู่บ้านเป็นประจำ ใครก็ไม่กล้าตักเตือน ยิ่งเฉพาะเวลามีตำรวจมานั่งสังสรรค์ด้วย ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เมื่อหลายปีก่อนตนและสามีทนเห็นการกระทำของชายที่อ้างว่าเป็นหม่อมหลวงไม่ไหว จึงได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กต่อว่า ในเมื่อตัวเองเป็นถึงหม่อมหลวงแล้วจะกินเหล้าเมายา ก็อย่าให้รบกวนชาวบ้านมากนัก ใครก็กินเหล้ากันได้ แต่ว่ากินแล้วให้มีมารยาทหน่อย อย่าเสียงดังรบกวนชาวบ้านมากนัก ทำให้หม่อมหลวงและแฟนเห็นก็ไม่พอใจ ต่อว่าเข้ามาในเฟซฯ ตนจึงลบโพสต์ดังกล่าวออกไป เวลาที่พวกตนเดินผ่านหรือขับรถผ่านบริเวณสี่แยก บ้านผู้ก่อเหตุที่เปิดเป็นร้านขายของชำ ก็จะถูกต่อว่าหรือตะโกนด่าหยาบคายตลอด แต่ก็อดทน ไม่แยแส

กระทั่งก่อนเกิดเหตุ สามีตนได้เดินผ่านหน้าบ้านเขาอีกครั้ง จึงเกิดมีปากเสียงท้าตีท้าต่อยกัน ซึ่งหม่อมหลวงสู้ไม่ไหว จึงวิ่งเข้าไปเอาปืนพกสั้นออกมา จังหวะนั้นสามีกำลังเดินกลับมาใกล้จะถึงบ้านแล้ว ถูกหม่อมหลวงวิ่งเอาปืนไปข่มขู่จะฆ่าให้ตาย สามีตนก็ยกมือไหว้ ยอมแล้ว ขอโทษขอให้ไว้ชีวิต แต่หม่อมหลวงยิงเข้าเบ้าตาสามีจนล้มลงกับพื้น จากนั้นก็ยืนเฝ้าสามีที่นอนหายใจรวยรินคุมเชิงอยู่ โดยห้ามใครเข้ามาใกล้หรือมาช่วยเหลือเด็ดขาด ไม่งั้นจะยิงคนที่เข้ามาให้ตายตามไป ระหว่างนั้นก็มีชาวบ้านโทรไปแจ้งตำรวจว่ามีคนถูกยิง เมื่อตำรวจขับรถเลี้ยวเข้าซอยที่เกิดเหตุ หม่อมหลวงก็ยกปืนขึ้นยิงขมับตัวเองตายเพื่อหนีความผิด โดยยืนยันที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะทนกับครอบครัวนี้มานาน ซึ่งชาวบ้านก็เห็นด้วย

นายดำรงค์ จำปาวง อายุ 50 ปี ที่มาทันเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงทะเลาะกันก็เลยออกมาดู โดยลุงอีกคนก็วิ่งเข้าไปห้ามและให้แยกออกจากกัน ซึ่งก็แยกย้ายกันไปแล้ว นายอุทัย ผู้ตายกำลังเดินกลับมาบ้าน หม่อมหลวงผู้ก่อเหตุก็วิ่งไปเอาปืนมายิงนายอุทัย ยายที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้ตายยกมือขอโทษว่าผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษ ผู้ก่อเหตุก็ไม่ฟัง ยิงเข้าเบ้าตาเลย ตัวเองจึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน พอมาก็ไม่มีใครกล้าเข้าไป เพราะผู้ก่อเหตุถือปืนอยู่ไม่ให้ไปยุ่งกับศพ ส่วนปืน .38 ก็เหน็บอยู่ที่เอวตลอด จากนั้นมีตำรวจมาเกลี้ยกล่อม ช่วงนั้นตำรวจจาก สภ.เมืองบึงกาฬ มาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ยกปืนยิงขมับตัวเองทันที ส่วนชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างก็พูดเสียงเดียวกันว่าดีใจที่ หม่อมหลวงวันชัย ที่ทำตัวเป็นขาใหญ่ในหมู่บ้าน เลือกจบชีวิตตัวเองหนีความผิด

ด้าน ร.ต.อ.รัฐพล เดชนรสิงห์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่า ศพบุคคลทั้งสองหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและพิสูจน์หลักฐานชันสูตรแล้ว จะเก็บศพไว้ที่โรงพยาบาลบึงกาฬก่อน ต้องรอคิว พรุ่งนี้ถึงจะส่งไปผ่าพิสูจน์และผ่าหัวกระสุนออกที่สถาบันนิติเวชขอนแก่น ตอนนี้อยู่ระหว่างเรียกญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุแรงจูงใจที่ หม่อมหลวงวันชัย ก่อเหตุสลดในครั้งนี้