ตำรวจ สภ.ช้างเผือก คุมตัวไรเดอร์โหด ซ้อมเมียดับคาห้องเช่า ทำแผนที่จุดเกิดเหตุ เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้ตาย อ้างพลาดพลั้ง-ไม่ได้ตั้งใจ เบื้องต้นโดน 1 ข้อหาหนัก  

จากรณีที่ นายธนวัฒน์ ไชยมงคล อายุ 47 ปี อาชีพไรเดอร์ ก่อเหตุฆ่า นางอรทัย หัสกิจ อายุ 45 ปี ภรรยา เสียชีวิตภายในบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สาเหตุมาจากความหึงหวง ทะเลาะกันอย่างรุนแรง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้หลังเกิดเหตุ ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 27 ก.ค.67 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 ก.ค. 67 พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผู้กำกับการ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ควบคุมตัว นายธนวัฒน์ ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ

จากการสอบถาม นายธนวัฒน์ ให้การว่า วันนั้นตนทะเลาะกับภรรยาหลายรอบ ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงค่ำ และถูกภรรยาใช้มีดฟันแขนได้รับบาดเจ็บ ก่อนเกิดเหตุ ตนคิดว่าเราทั้งคู่ดีกันแล้ว จึงพาภรรยาออกไปกินหมูจุ่มนอกบ้าน กินได้สักพักเราก็ทะเลาะกันอีก

"คราวนี้ผมถูกเขาเอาน้ำซุปเทใส่ เห็นท่าไม่ดีเลยพาเขากลับมาบ้าน พอถึงบ้านเราทั้งคู่ก็นั่งดื่มเบียร์ด้วยกันสักพัก จากนั้นก็มีปากเสียงกันอีก เขาคว้ามีดจะทำร้ายผม ผมจึงผลักเขาล้มลง แล้วแย่งมีดโยนทิ้งไป จากนั้นก็ฉุดกระชากกันมาที่ริมถนนหน้าบ้าน ผมใช้มือซ้ายชกใส่หน้าเขา จำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง จากนั้นก็จับหัวเขาโขกกับพื้นถนน ตอนนั้นเขาก็ยังด่าผมไม่หยุด พอเขาลุกขึ้นมาได้จึงเห็นเลือดออกจากปากและจมูก ผมจึงพาเขากลับเข้ามาในบ้าน แต่เขาก็ยังไม่หยุดด่า จนมีคนแจ้งเจ้าของหอพักแล้วเดินมาดู ผมจึงเอาผ้าเช็ดเลือดให้ภรรยา ซึ่งตอนนั้นเขายังไม่เสียชีวิต พอผ่านไปสักพัก ผมเห็นเขาเงียบไปจึงพยายามเรียก แต่เขาไม่รู้สึกตัว ผมจึงเอามือไปแตะจมูกเห็นว่าไม่หายใจ จึงรีบพยายามปั๊มหน้าอก แล้วพยายามเรียกภรรยา ก่อนจะอุ้มไปที่เตียงนอน แล้วปั๊มหน้าอกให้อีก แต่เริ่มเห็นว่าไม่ไหว จึงโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัย พอเจ้าหน้าที่มาถึงจึงรู้ว่าเสียชีวิตแล้ว ผมยอมรับว่าเสียใจมาก ไม่ใช่ว่าไม่รักเขา ผมรักเขามาก และอยากฝากขอโทษทางครอบครัวภรรยาด้วย สิ่งที่ผมทำลงไปไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นความพลาดพลั้งเท่านั้น" นายธนวัฒน์ เผย

...

ด้าน พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.ช้างเผือก กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด แต่หลังจากส่งตัวไปทำการรักษาบาดแผลที่ถูกมีดทำร้ายที่แขนซ้าย และตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พบว่าผู้ต้องหาซี่โครงหักจากการทะเลาะกับผู้ตาย จึงให้แพทย์ทำการรักษา ก่อนนำตัวกลับมาควบคุมที่ สภ.ช้างเผือก เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนคดีนี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่ต้องรีบดำเนินการ เบื้องต้น ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา "ทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย" เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ส่วนข้อหาอื่นๆ นั้นต้องรอผลตรวจสอบจากทางแพทย์ก่อนว่า พบสารเสพติดในตัวผู้ต้องหาหรือไม่ รวมทั้งพยานหลักฐานเพิ่มเติมอื่นๆ หากมีก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนทางครอบครัวและญาติของผู้ตาย ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งให้ทราบแล้ว เพื่อให้มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

"ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่า ผู้ตายเสพสารเสพติด จึงมีอาการไม่ปกติ ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อ แต่ทั้งนี้ได้ส่งศพผู้ตายไปยังแผนกนิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับตรวจหาสารเสพติด ซึ่งต้องรอผลออกมาเท่านั้น จึงจะทราบได้อย่างแน่ชัด" ผกก.สภ.ช้างเผือก กล่าว