โคตรเศร้า "ญาติ-ผู้บังคับบัญชา" เข้ารับร่าง "รองหรั่ง" เหยื่อ "เฮียตุ้ง" คลั่งยิงดับขณะเข้าระงับเหตุ "ผู้การ น.9" จัดขบวนรถ 10 โรงพัก ส่งร่าง "ตำรวจกล้า" เข้าวัดยางสุทธาราม เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติ ด้านพี่สาว รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม เผยน้องชายเป็นคนทำงานตลอดเวา แม้มาเฝ้าแม่ที่ป่วยติดเตียงยังต้องฟังวิทยุฟังเหตุการณ์ เขาทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้เต็มภาคภูมิแล้ว


กรณี นายบุญมา วณิชพงศ์ธร หรือ เฮียตุ้ง อายุ 49 ปี ผู้ก่อเหตุจับลูกสาววัย 15 ปีเป็นตัวประกัน ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม กระสุนเจาะหน้าอกเสียชีวิต และยังมี ด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผบ.หมู่ ป.สน.ท่าข้าม ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกสะเก็ดกระสุนกระเด็นใส่ที่บริเวณนิ้วโป้งมือซ้าย ที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งซอย 2 ถนนพระรามสอง แขวงและเขตบางบอน กทม. เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งรุ่งเช้านายบุญมา เสียชีวิตในภายหลังเช่นกัน ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น 


ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ก.ค. 67 ที่ตึกภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รอง ผบก.น.9, พ.ต.อ.อชิรวิทย์ ทองจันดี รอง ผบก.น.9, พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม และครอบครัว ของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ อาทิ พ.ต.ท.หญิง จิราวรรณ ธัญญะเจริญ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ, พ.ต.ท.หญิง ชนม์ณกานต์ จันยะรมณ์ รอง ผกก.กองอัตรากำลัง สนง.กำลังพล, ร.ต.ท.วันรัฐธ์ จันยะรมณ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ พี่สาวพร้อมภรรยา และลูกชาย และญาติพี่น้อง เดินทางนำเอกสารติดต่อเข้ารับศพ ของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ อายุ 59 ปี รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม หรือ "รองหรั่ง" ผู้เสียชีวิต โดยมีการใช้รถยนต์กระบะตำรวจในสังกัด บก.น.9 ทั้ง 10 สน. ประกอบด้วย 1.สน.ท่าข้าม 2.สน.เพชรเกษม 3.สน.แสมดำ 4.สน.บางขุนเทียน 5.สน.เทียนทะเล 6.สน.ภาษีเจริญ 7.สน.หลักสอง 8.สน.บางบอน 9.สน.หนองแขม และ 10.สน.หนองค้างพลู เพื่อมาตั้งขบวนนำร่างของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ไปที่วัดยางสุทธาราม แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ อย่างสมเกียรติ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

...

ด้าน พ.ต.ท.หญิง จิราวรรณ อายุ 61 ปี พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า ครอบครัวตนยากจนมาก่อน พ่อขับสามล้อส่งเสียลูกทั้ง 4 คน เพราะพ่อของตนคิดว่าการเป็นตำรวจจะได้ไม่ถูกใครรังแก อยากให้ลูกเป็นตำรวจทั้งหมด แต่มีเพียงตนและน้องชายเป็นตำรวจกันอยู่แค่ 3 คน ตนเสียใจมาก น้องตนเป็นคนดีไม่น่ามาจบชีวิตเช่นนี้ ที่ผ่านมาน้องตนทำแต่งาน ปฏิบัติงานตลอดเวลา อยู่บ้านก็เปิดวิทยุตำรวจฟังเหตุการณ์ตลอดเวลา


โดยแม่ตน เป็นผู้ป่วยติดเตียงแต่น้องชายก็มาดูแลแม่ไปด้วย พร้อมฟังวิทยุตำรวจในการสังเกตการณ์เหตุการณ์ต่างๆ อยู่ตลอด แล้วก็ไม่ได้บอกผู้บังคับบัญชาว่าตนเองมีความจำเป็นที่ดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง และน้องตนเคยรับตำแหน่งมาหมดแล้วตั้งแต่เจ้าหน้าที่จราจร ยัน รองผู้กำกับฝ่ายปราบปราม ผ่านมาหมด จนเหลือเพียงแค่ปีสุดท้ายก่อนการเกษียณ เเต่เมื่อเกิดความสูญเสียแล้ว ตนก็คิดว่าน้องชายตนทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว


"น้องทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้เต็มภาคภูมิแล้ว ถึงจะไปเกิดชาติภพไหนจะไม่อายใครในอาชีพที่ผ่านมา" พ.ต.ท.หญิง จิราวรรณ กล่าว และว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีใครผิดหรือถูกเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ได้คาดคิด ลูกของ ผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้มีความผิดอะไร ตำรวจที่เสียชีวิตก็ไม่ได้มีความผิดเช่นเดียวกัน เป็นเหมือนโชคชะตา หลังจากนี้ครอบครัวตนคงต้องทำใจและไม่มีความโกรธแค้นใดๆ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวทุกฝ่ายมีความสูญเสียเกิดขึ้น

...


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ครอบครัวเข้ารับร่างของ "รองหรั่ง" ได้มีการจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่นำผ้าขาวมาคลุมร่างของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ แบบมิดชิดก่อนนำขึ้นรถตู้สีขาว ทะเบียน ฮว 7742 กรุงเทพมหานคร โดยมีรถ ผบก.น.9 นำขบวนตามด้วยรถตำรวจทั้ง 10 สน.


มีรายงานข่าวแจ้งว่า ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อหาญาติของ นายบุญมา วณิชพงศ์ธร หรือ เฮียตุ้ง อายุ 49 ปี ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต เพื่อสอบถามว่าจะเข้ามารับศพเมื่อไหร่และวันไหน โดยญาติไม่ตอบคำถาม เนื่องจากไม่อยากให้เป็นข่าว ทั้งนี้ร่างของเสี่ยตุ้ง และรองหรั่ง ส่งมาชันสูตร รพ.เดียวกันด้วย.