"ศาลจังหวัดภูเก็ต" พิพากษาจำคุก 7 จำเลยชาวไทย-ต่างชาติ เปิดสถานบริการเถื่อน ย่านวอล์กกิ้งสตรีทป่าตอง แฝงค้ากามเด็ก ทุกคนโดนโทษอ่วม โดยเฉพาะจำเลยที่ 4 โดนโทษจำคุกทุกกระทง รวม 1,073 ปี
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 16 มี.ค. 66 นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครองได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครองเข้าตรวจสอบบาร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในซอยบางลาป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นย่านวอล์กกิ้งสตรีทยามค่ำคืนชื่อดังของ จ.ภูเก็ต หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากมูลนิธิ Operation Underground Railroad (O.U.R) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศทำงานด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ว่า บาร์แห่งนี้เปิดสำหรับรับนักท่องเที่ยว แต่มีการแอบแฝงนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณีให้แก่ลูกค้าชาวต่างชาติ ชุดปฏิบัติการพิเศษได้ส่งสายเข้าสืบสวนร้านดังกล่าว พบว่ามีการแอบแฝงการขายบริการทางเพศเด็กจริง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ จึงร่วมกันกับฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต และมูลนิธิ Operation Underground Railroad (O.U.R) เพื่อเข้าดำเนินการตรวจสอบ และช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์
โดยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดแรกเข้าตรวจสอบร้านในซอยซีดร้าก้อน ถ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบ น.ส.ทักษกร หรือ "น้ำ" แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน และพบ น.ส.วัชราภรณ์ หรือ "ยูกิ" เป็นนายหน้าจัดหาเด็กมาขายบริการทางเพศ ตรวจสอบพบว่านอกจากมีการแฝงขายบริการทางเพศเด็กแล้ว ทางร้านยังเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้จับกุมตัวทั้ง 2 คนไปสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหา "ค้ามนุษย์และตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต"
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ภายในโรงแรมบริเวณใกล้เคียง สามารถช่วยเหลือเหยื่อได้จำนวนทั้งสิ้น 6 คน ซึ่งพบว่าคนที่มีอายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงพาตัวไปเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์คัดกรอง และคัดแยก โดยสหวิชาชีพและเตรียมนำตัวส่งเข้าบ้านพักเด็กฯ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ จากการตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จากนั้นได้ขยายผลจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 7 คน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายกับพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง
...
ล่าสุดวันนี้ (19 ก.ค.) ศาลจังหวัดภูเก็ตได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 7 คน ต่างกรรมต่างวาระ โดยศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ถูกพิพากษาลงโทษจำคุกทุกกระทง รวมทั้งสิ้น 1,073 ปี ซึ่งการดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้กระทำผิด ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั้งสิ้น 7 รายนั้น ที่ผ่านมาจำเลยให้การปฏิเสธและต่อสู้คดีมาโดยตลอด