"เอกภพ เหลืองประเสริฐ" ที่ปรึกษา มท.1 และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาเจ้าของบริษัทรถเช่า เข้าให้ปากคำที่กองสืบภาค 2 เพื่อเอาผิดตำรวจที่ร่วมขบวนการ รีดเงินนักท่องเที่ยวชาวจีน 7 แสนบาท พร้อมเผยข้อมูลเชิงลึกในที่เกิดเหตุ มีตำรวจมากกว่า 1 นาย และมีพลเรือนด้วย
จากเหตุการณ์ 2 นักท่องเที่ยวชายชาวจีน เดินทางจากสนามบินเชียงราย เดินทางมุ่งหน้าเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ขณะใกล้ถึงจุดหมายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ใช้รถยนต์ 2 คัน ขับปาดหน้า เปิดปฏิบัติการอุ้มสองนักท่องเที่ยวพร้อมโชเฟอร์ ไปรีดเงิน 7 แสนบาท ที่เซฟเฮาส์ เบื้องต้นตำรวจ บก.สส.ภ.2 ไล่กล้องวงจรปิด พบตำรวจชั้นประทวน รวมอยู่ด้วย อยู่ระหว่างเค้นสอบขยายผล
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ก.ค. ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด นายเอ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี เจ้าของบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา มท.1 และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลัง 2 นักท่องเที่ยวชาวจีน ผู้เช่ารถกับบริษัทของนายเอ ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ บังคับให้จอดรถกลางถนนมอเตอร์เวย์ ก่อนพาไปค้นห้องพักแล้วข่มขู่รีดเงินไปกว่า 700,000 บาทหลบหนีไป
มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ระดมตำรวจ บก.สส.ภ.2 ลงพื้นที่เก็บข้อมูลจากภาพกล้องวงจรปิด โรงแรมที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าพัก เพื่อตรวจสอบว่าบุคคลในคลิปเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เบื้องต้นพบ 1 ในกลุ่ม ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจยศ ส.ต.ท. สังกัดตำรวจ บช.ภ. 2 โดย พล.ต.ต.ธีระชัย ได้สอบปากคำด้วยตนเอง ตำรวจคนดังกล่าวยังคงให้การปฏิเสธ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อ เวลา 14.30 น. วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 จ.ชลบุรี (บก.สส.ภ.2) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พานายเอ (นามสมมติ) เจ้าของบริษัทรถเช่า เข้าพบกับ พ.ต.อ.พัลลภ สุภิญโญ รอง ผบก.สส.ภ.2 และมีทีมพนักงานสอบสวน เตรียมความพร้อมสอบสวนนายเอ เพื่อจะได้ดำเนินการหาตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
...
ซึ่ง พ.ต.อ.พัลลภ สุภิญโญ รอง ผบก.สส.ภ.2 ได้ตอบคำถามที่นักข่าวถามว่า เดี๋ยวเราจะได้ดำเนินการสอบสวนเพื่อหาผู้ที่เกี่ยวข้องว่าเกี่ยวข้องกับตำรวจ สภ.พื้นที่ใด ซึ่งทางตำรวจสืบสวนภาค 2 โดยท่านผู้การก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพียงแต่ขอเวลาทำงานสักนิด เนื่องจากเรื่องได้เกิด ร้องเป็นข่าวกันเมื่อวาน เราทำกันเต็มที่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ยังให้รายละเอียดอะไรมากไม่ได้
ซึ่งตอนนี้ถ้าให้ข้อมูลอะไรไปอาจจะคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งถ้าให้เร็วไปก็จะผิดพลาด ผมคาดว่าน่าจะวันสองวัน ไม่เกินวันพรุ่งนี้ ต้องได้รายละเอียด คืบหน้าแน่นอน วันนี้ต้องขอบคุณทางเพจสายไหมต้องรอด ที่พาตัวของรถเช่ามาให้ปากคำ ซึ่งเราจะทำการสอบสวนเร่งให้อย่างเร็วที่สุด และจะรู้ว่าเกิดเกี่ยวพันกับตำรวจพื้นที่ใด หรือมีใครเกี่ยวข้องจะดำเนินการเต็มที่ ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่ามีตำรวจ เกี่ยวข้องกี่คน แต่คาดว่าวันนี้พรุ่งนี้ต้องรู้แน่นอน
ทางด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จากที่ตนทราบข้อมูลเชิงลึกในที่เกิดเหตุนั้น มีตำรวจมากกว่า 1 นาย และมีพลเรือนด้วย แต่ต้องให้ทางกองสืบภาค 2 ให้ข้อมูลจะดีกว่า
จากข้อมูลที่ได้มา เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าไปตรงนั้น ไปรถคันนั้น เพราะมีสายมาชี้เป้า เพราะฉะนั้นต้องสอบให้ละเอียดก่อนว่า สายชี้เป้าคือใคร ทราบว่าขณะนี้คนขับรถในวันเกิดเหตุกำลังเดินทางมาที่สืบภาค 2 ซึ่งคนขับรถจะเป็นกุญแจสำคัญเช่นเดียวกัน
ในวันนี้ทุกคนต้องสงสัยกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถ เพื่อนชาวจีน หนึ่งในสองคนจะรู้เรื่องไหม กลุ่มคนที่ประสานชาวจีนให้ขึ้นรถด้วย ในส่วนของชาวจีนเองวันนี้ ตนขอประชาสัมพันธ์อีกครั้งว่า หากคุณหรือเพื่อนคุณได้ดูหรือเห็นข่าวให้รีบมาแจ้งความ เพราะหากมาช้ากว่านี้จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเหมือนกัน เพราะคุณถูกเอาเงินไป ทำไมไม่มาแจ้งความ หรือว่าเงินนี้เป็นเงินที่มาจากไหน เพราะว่าเงินนี้ทราบว่ารับมาจากทางภาคเหนือ ที่เชียงราย สนามบินแม่ฟ้าหลวง ซึ่งคนที่ไปเอาเงินชาวจีนนั้นผิดแน่นอน
“เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้มีตำรวจ ยศ ส.ต.ท.ออกมาให้ข้อมูลกับทางชุดสืบสวน ว่ามีหน้าที่เป็นคนชี้เป้าหรือไม่นั้น ทาง ส.ต.ท.ได้ไปตรวจสอบเอกสาร เพราะมีคนให้ข้อมูลว่ามีคนจีนที่มาในรถคันดังกล่าว มีเอกสารไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ เรื่องนี้ทางด้านผู้การสืบภาค ได้บอกแล้วว่า ขั้นตอนการปฏิบัตินั้นไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้นแล้ว ตอนนี้คนจีนยังติดต่อไม่ได้ เพราะเขาเป็นชาวต่างชาติ ก็ไม่รู้ว่าล่ามได้มีการข่มขู่อะไรเขาไว้ไหม
และการที่คนจีนมอบเงินให้ ก็ไม่รู้โดนข่มขู่อะไรบ้างจากล่าม เช่น ห้ามพกเงินเกินเท่าไร หรือว่าคนที่เอาไปอาจจะรู้ว่าเงินมาจากไหนก็ได้ คนที่ไขกุญแจ คือ คนขับรถที่กำลังจะเดินทางมา ซึ่งเขาอยู่ในที่เกิดเหตุ 2 คน จีน 2 คน ก็น่าจะได้ตัว ซึ่งทางเจ้าของรถเช่ามีเบอร์ติดต่อคนที่มาประสานรถเช่า เขาจะติดต่อคนจีนได้ แต่เบอร์โทรศัพท์ที่เขาใช้มันไม่โชว์เบอร์ แต่ตำรวจกองสืบน่าจะหาได้ไม่ยาก ว่าเบอร์นี้คือเบอร์อะไร โดยตรวจสอบจากต้นสังกัดของเบอร์มือถือน่าจะได้”