ตำรวจแม่ปิง คุมตัว "โอปอล" ผู้ต้องหาชิงทอง-ฆ่าแกร็บ ฝากขังศาลจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมตั้ง 9 ข้อหาหนัก หวั่นฆ่าตัวตาย ขณะที่ครอบครัววอนให้ตรวจสภาพจิต ด้าน จนท.ได้อายัดทองที่ผู้ต้องหานำไปจำนำ และขายส่งคืนแล้ว


เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ก.ค. 67 ตำรวจ สภ.แม่ปิง คุมตัว นายนิพิฐพนธ์ สมบูรณ์ อายุ 26 ปี หรือ โอปอล ผู้ต้องหาชิงทองกลางห้างดังเชียงใหม่ 80 บาท และฆ่าว่าที่ร้อยโทสุเทพ ชัยนันนาตา อายุ 48 ปี ไรเดอร์จนเสียชีวิตไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเมื่อช่วงเช้าได้มีการส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายและดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อประกอบสำนวนคดี ซึ่งตลอดเวลาผู้ต้องหาก็ยังคงไม่ยอมพูดคุย ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวและมีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด


ด้าน พ.ต.อ.ญาณพล พัฒนชัย ผกก.สภ.แม่ปิง เปิดเผยว่า สำหรับกระบวนการที่ทางตำรวจดำเนินการกับผู้ต้องหานั้น วันนี้ตำรวจภูธรแม่ปิงจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ต้องหาก่อเหตุใน 2 พื้นที่ทั้ง สภ.แม่ปิง และ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งคำสั่งของตำรวจภูธรเชียงใหม่มอบหมายให้ทางพนักงานสอบสวน 2  พื้นที่รับผิดชอบร่วมกัน โดยให้ทาง สภ.แม่ปิง เป็นสำนวนหลัก ดังนั้นการสรุปข้อกล่าวหาทั้งหมดนั้นก็จะเป็นของ สภ.แม่ปิง การฝากขังกระบวนการก็เป็นของ สภ.แม่ปิง    

 

...

ซึ่งก่อนการฝากขังนั้นตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่นั้นเพื่อดูว่าตอนก่อเหตุนั้นมีดีเอ็นเอของผู้ตายปะปนอยู่กับผู้ต้องหาหรือไม่ เพื่อเป็นการยืนยันหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อีกทางหนึ่ง ส่วนการตรวจสภาพจิตใจนั้นทางตำรวจจะประสานกับทางเรือนจำจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง เนื่องจากทางครอบครัวประสงค์จะขอให้ตรวจ ส่วนสารเสพติดนั้นทางตำรวจก็ได้มีการตรวจแล้วแต่ไม่พบ   


โดยผู้ต้องหาอยู่ในห้องขังมา 2 คืน ยอมรับว่า ขณะนี้สภาพร่างกายอ่อนเพลีย เมื่อวานนี้ทั้งสอบปากคำ ทั้งไปทำแผนตามจุด ก็ทำให้มีอาการอ่อนเพลียอยู่

โดยขณะที่อยู่ในห้องขังตลอดทั้งคืนตำรวจหวั่นว่าผู้ต้องหาจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย จึงได้จัดกำลังดูอย่างเข้มงวด และให้ผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องขังช่วยกันล้อมและพลัดเปลี่ยนดูแลนายโอปอลไว้ด้วย


ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นทางพ่อของผู้ต้องหาได้นำสำเนาใบ ป.3 มาแสดง ซึ่งขอซื้อมาถูกต้อง แต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอเอกสารยืนยันจากราชการอีกครั้ง


ขณะที่ของกลาง สร้อยทอง ที่ผู้ต้องหาขโมยไป 80 บาทนั้น ได้คืนมา 70 บาท ขาด 6-7 เส้น โดยเจ้าหน้าที่ค้นสำหรับจำนวนทอง 80 บาท ตอนนี้ยังได้ไม่ครบ ได้มาเพียง 6-7 เส้น ที่เหลือยังไม่พบ แม้จะค้นบ้าน รื้อเพดานบ้าน แล้ว 3 ครั้ง และจากการสอบถามเพิ่มเติมพบว่าผู้ต้องหานั้นได้นำทองไปขายและจำนำที่ร้านทองในอำเภอดอยสะเก็ด และอำเภอสันกำแพงทั้งหมด 4 ร้าน


ส่วนเงินที่ไปขาย และจำนำทอง สรุปได้เงินไป 3.1 แสนบาท ผู้ก่อเหตุได้โอนเงินไปให้ พ่อ-แม่-น้องสาว คนละ 5 หมื่นบาท และอีก 6 หมื่นให้กับน้องต่างมารดา ตำรวจได้อายัดเงินทั้งหมดแล้ว ซึ่งสอบสวนผู้รับโอนเงินก็ไม่ทราบที่มาของเงินที่ผู้ก่อเหตุโอนให้.