ตำรวจ ปคม.บุกทลายร้านคาราโอเกะ-นวดแผนโบราณเถื่อน แฝงค้าประเวณีโจ๋งครึ่ม ส่งสายลับล่อซื้อ พบชั้นล่างเปิดเป็นคาราโอเกะให้ลูกค้าร้องเพลง ดื่มกิน มีหญิงสาวนั่งดริงก์ ส่วนชั้นบนตกแต่งเป็นห้องแยกอ้างเอาไว้สำหรับนวด แต่นาบได้ราคาครั้งละ 1,500 บาท พบมีถุงยางอนามัยเตรียมไว้ให้พร้อม ล็อกสาวใหญ่ เจ้าของร้านดำเนินคดี สารภาพมีการขายบริการ ทางร้าน หักไว้ครั้งละ 300 บาท ส่วนอีก 1,200 บาท ให้พนักงานสาว ที่มีทั้งสาวชาวไทยและสาวชาวลาวไว้คอยให้บริกา

ตำรวจ ปคม.บุกทลายร้านคาราโอเกะและนวดแผนโบราณแฝงค้ากาม เปิดเผยขึ้นที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 ก.ค. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม. และ พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม. แถลงข่าวชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ณัฏฐพัชร์ งามประดิษฐ์ สว.กก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง สว.กก.1 บก.ปคม. และ พ.ต.ต.ภาณุพันธ์ ฤทธิเดช สว.กก.1 บก.ปคม. นำกำลังจับกุมร้านรัศมีคาราโอเกะ แขวงหนองจอก เขตหนองจอก กทม. หลังสืบทราบว่าเปิดสถานบริการ แฝงค้ากามหญิงสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างด้าวเข้าข่ายการค้ามนุษย์

ที่ร้านเกิดเหตุตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่ได้ขออนุญาตเปิดเป็นสถานบริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จับกุมตัวนางรัศมี วรทุม อายุ 52 ปี รับเป็นเจ้าของร้าน แจ้งข้อหาเป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี ผู้ดูแลหรือผู้จัดการกิจการการค้าประเวณีฯ และข้อหารับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต พร้อมควบคุมตัวพนักงานสาวรวม 6 คน แบ่งเป็นหญิงสาวชาวไทย 3 คน แจ้งข้อหามั่วสุมในสถานการค้าประเวณีฯ และหญิงสาวชาวลาวอีก 3 คน แจ้งข้อหามั่วสุมในสถานการค้าประเวณีฯและข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดที่ร้านรัศมีคาราโอเกะ

...

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม.สืบทราบว่า ที่ร้านรัศมีคาราโอเกะเปิดให้บริการทั้งคาราโอเกะและนวดแผนโบราณในสถานที่เดียวกัน แต่ลักลอบแฝงการค้าประเวณี มีหญิงบริการทั้งชาวไทยและหญิงต่างด้าวชาวลาวให้บริการ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองจอก วางแผนล่อซื้อ ให้สายลับปลอมตัวเป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการ พบร้านดังกล่าวตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์ 1 คูหา ภายในร้านชั้นล่างเปิดเป็นคาราโอเกะให้ลูกค้านั่งกินดื่มพร้อมกับร้องเพลง สามารถเรียกพนักงานสาวมานั่งดื่มกินด้วยได้ ส่วนชั้นบนตกแต่งเป็นห้องแยกสำหรับผู้ที่ต้องการนวด พร้อมเสนอขายบริการทางเพศให้ลูกค้าราคาครั้งละ 1,500 บาท สายลับจึงตกลงจ่ายเงินค่าซื้อบริการ จากนั้นพาหญิงพนักงานที่เลือกไว้ขึ้นไปที่ห้องชั้นบน ในห้องมีถุงยางอนามัยเตรียมไว้เพื่อใช้ในการร่วมประเวณี จึงส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมที่รออยู่ด้านนอกบุกเข้าจับกุม

จากการเข้าตรวจสอบภายในร้านพบด้านล่างมีโต๊ะให้ลูกค้านั่งดื่มกิน เรียกพนักงานสาวมานั่งดูแลได้ ส่วนบริเวณชั้น 2 และชั้น 3 ดัดแปลงซอยห้องแยกกว่า 10 ห้อง มีที่นอนวางบนพื้นเพื่อใช้นวดแฝงค้าประเวณี นอกจากนี้ยังพบถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นภายในร้านด้วย ตรวจสอบหญิงพนักงานที่ให้บริการอยู่ภายในร้าน พบหญิงสาว 6 คน แบ่งเป็นคนไทย 3 คน และคนลาว 3 คน เจ้าหน้าที่นำหญิงสาวทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง ช่วยเหลือ คุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ สอบถามเบื้องต้นให้การว่า ไม่ได้ถูกบังคับให้ค้าประเวณี สอบสวนนางรัศมี เจ้าของร้านรับสารภาพว่า คิดค่าบริการจากลูกค้าครั้งละ 1,500 บาท ทางร้านจะหักไว้ 300 บาท ส่วนที่เหลือ 1,200 บาทให้พนักงาน เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1. บก.ปคม.ดำเนินคดี

พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม.กล่าวว่า ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการ ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสถานบริการ ร้านคาราโอเกะให้ปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ห้ามปล่อยปละ ละเลยให้มีการแอบแฝงการค้าประเวณี และรับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานในสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด เพราะการกระทำดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุนำไปสู่การกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนโดยทั่วไป หากผู้ใดพบเบาะแสการกระทำความผิดขอให้แจ้ง บก.ปคม.ทางหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1191

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่