น้องชายร้องขอความเป็นธรรมให้พี่ชาย ถูกจับเมาขับ ตำรวจนำตัวส่งฟ้อง ศาลตัดสินจำคุก 21 วัน ส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษพัทยา ถูกกลุ่มนักโทษรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส มีอาการเลือดออกในสมอง เรือนจำส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลบางละมุง ก่อนจะเสียชีวิต   


เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 นายสัมฤทธิ์ บุญเชิด อายุ 39 ปี เดินทางมาติดตามคดีที่ สภ.บางละมุง พร้อมกับนำเรื่องมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า พี่ชาย หรือ นายจรินทร์ บุญเชิด อายุ 46 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ คุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษพัทยา ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกกลุ่มนักโทษรุมทำร้ายร่างกายจน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความเศร้าโศกเสียใจและความคลางแคลงใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก รวมถึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

โดยนายสัมฤทธิ์เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายจรินทร์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ซาเล้งไปเฉี่ยวชนกับคู่กรณีจนได้รับความเสียหาย ซึ่งกลุ่มญาติได้เดินทางไปไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหาย ส่วนนายจรินทร์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ส่งตัวดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับ แต่เนื่องจากปริมาณแอลกอฮอล์สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงไม่สามารถประกันตัวในชั้นโรงพักได้ เมื่อไปถึงชั้นศาลได้มีคำตัดสินมีโทษจำคุก 21 วัน และส่งตัวเข้าเรือนจำเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.

     

กระทั่งในค่ำคืนของวันที่ 19 มิ.ย. นายจรินทร์ ได้ทุกกลุ่มนักโทษรุมทำร้ายตลอดทั้งคืน บาดเจ็บอาารสาหัส โดยทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้พาส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางละมุงในช่วงเช้า พร้อมทั้งแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ว่านายจรินทร์ถูกกลุ่มนักโทษรวม 8-9 คน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมนำรายชื่อส่งให้พนักงานสอบสวน ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นเป็นผู้ต้องขังโทษคดียาเสพติดทั้งสิ้น 

...

     

ขณะที่ นายจรินทร์ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางละมุง มีอาการเลือดออกในสมอง เจ้าหน้าที่พยายามรักษายื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่ผู้บาดเจ็บทนบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางญาติก็พยามติดตามเรื่องการดำเนินคดี ซึ่งทางพนักงานสอบสวนยืนยันส่งฟ้องผู้ก่อเหตุทั้ง 9 ราย

    

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเรือนจำยังไม่เปิดเผยถึงสาเหตุ สถานที่เกิดเหตุทำร้ายพี่ชายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมไปถึงความปลอดภัยในการควบคุมดูแลนักโทษในเรือนจำแต่อย่างใด แจ้งแค่ว่าหากพนักงานสอบสวนติดขัด หรือขาดหลักฐานใด ให้ติดต่อเรือนจำได้ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุกับญาติ ซึ่งทางญาติคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดถึงที่สุดด้วย.