ตำรวจ ปส. ร่วมกับ สภ.ลี้ จ.ลำพูน ตั้งด่านสกัดจับขบวนการค้ายาบ้า ใช้วิธีซุกมาในลังเลี้ยงผึ้ง ใช้รถกระบะบรรทุกจากภาคเหนือสู่พื้นที่ชั้นใน ยึดของกลาง 12 ล้านเม็ดมากที่สุดในรอบ 10 ปีของพื้นที่ภาคเหนือ
วันที่ 13 มิ.ย. 67 พ.ต.อ.วิชา กันทาสุข ผกก.สภ.ลี้ จ.ลำพูน ร่วมกับตำรวจปราบปรามยาเสพติด บช.ปส. พ.ต.ท.ปิยะอังกูร กตัญญู รอง ผกก.ป.สภ.ลี้ พ.ต.ท.สงวน แสงคำ รองผกก.สส. นำกำลังสกัดรถยนต์เป้าหมายที่คาดว่าขนยาเสพติดไปเต็มคันรถบนถนนพหลโยธิน ตรวจยึดของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 12,000,000 เม็ด มากเป็นประวัติการณ์ในรอบ 10 ปี โดย
ขณะเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจเข้มบริเวณด่านตรวจวังดิน ถนนพหลโยธิน หมู่ 3 ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ ได้พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า และรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ด้านหลังกระบะติดโครงเหล็ก มีทางท่าพิรุธ จึงให้สัญญาณหยุดตรวจ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่บช.ปส. มาสมทบ ตรวจรถคันแรก พบนายชาญณรงค์ อายุ 37 ปี ชาว ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ เป็นคนขับ ส่วนอีกคันมีนายศราวุธ อายุ 49 ปี ชาว ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย เป็นคนขับ โดยในรถคันที่ 2 พบว่าบรรทุกลังไม้สำหรับเลี้ยงผึ้งมาเต็มหลังรถกระบะดัดแปลงมีตะแกรงเหล็กกั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นลังที่บรรทุกมา พบภายในซุกซ่อนยาบ้าเอาไว้เต็ม รวมประมาณ 120 ลัง ลังละประมาณ 100,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 12,000,000 เม็ด จึงจับกุมตัวทั้งสองไว้ นำตัวส่ง สภ.ลี้ เพื่อสอบปากคำและขยายผล

...
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลี้ ได้รายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภาค 5 ทราบเป็นการด่วน และตำรวจภาค 5 ได้ส่งทีมชุดพนักงานสอบสวน ภาค 5 และชุดปราบปรามยาเสพติดเข้าประสานงานกับตำรวจ บช.ปส. เพื่อทำการขยายผลขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่กลุ่มนี้ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีของภาคเหนือเลยทีเดียว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ตำรวจกก.2 บก.ปส.3 ได้สืบสวนเกี่ยวกับกลุ่มเครือข่ายของ นายชาญณรงค์ พบว่ามีการเคลื่อนไหวในช่วงวันที่ 12-13 มิ.ย. โดยการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เข้ามายังพื้นที่ กทม. ด้วยการใช้เส้นทางระหว่างหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้าน เพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจของตำรวจ จนเวลา 01.58 น. วันที่ 13 มิ.ย. ตำรวจพบรถยนต์ หมายเลขทะเบียน ยจ 5143 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถที่นายชาญณรงค์ ขับผ่านเส้นทางที่กำลังซุ่มอยู่ จึงติดตาม และพบว่ามีการขับรถยนต์ที่แปลกไปจากปกติ คือการจอดหยุดพักหลายครั้ง ลักษณะเหมือนขับรอใคร จากนั้นตำรวจพบรถอีกคันคือ หมายเลขทะเบียน ผต 2508 นครปฐม ในเส้นทางเดียวกับรถของนายชาญณรงค์ จึงแบ่งกำลังติดตาม

ต่อมา เวลาประมาณ 07.00 น. พบว่า รถทะเบียนนครปฐม ขับแซงขึ้นไปอยู่ด้านหน้า ส่วนรถของนายชาญณรงค์ มีการลดความเร็วลงเพื่อจะตรวจสอบว่ามีรถตำรวจติดตามมาหรือไม่ กระทั่งใกล้ถึงด่านตรวจวังดิน หมู่ 3 ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน รถยนต์ที่นายชาญณรงค์ เป็นผู้ขับขี่มาได้ทำการเร่งความเร็ว ก่อนจะแซงหน้ารถยนต์ ผต 2508 นครปฐม เพื่อจะนำทางเข้าด่านตรวจ ระหว่างนั้นตำรวจ ปส. ได้ประสานงานกับตำรวจด่านตรวจวังดิน เพื่อทำการหยุดรถยนต์ทั้ง 2 คัน จากการสกัดจับกุมรถยนต์ หมายเลขทะเบียน ผต 2508 นครปฐม โดยมีนายศราวุธ เป็นผู้ขับขี่ ตรวจค้นรถพบยาบ้า จำนวน 12,000,000 เม็ด ซุกซ่อนมากับกล่องเลี้ยงผึ้งสีขาว ซึ่งถูกดัดแปลงเพื่อบรรจุยาเสพติดจำนวนมาก ส่วนรถหมายเลขทะเบียน ยจ 5143 เชียงใหม่ ที่มีนายชาญณรงค์ เป็นผู้ขับขี่ทำหน้าที่ขับนำทาง เพื่อตรวจสอบด่านตรวจ และคอยเฝ้าระวังการติดตามจากตำรวจ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชนอันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
โดยในเวลา 14.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวชัย ผบช.ปส. ได้เดินทางไปร่วมตรวจดูของกลางและซักถามผู้ต้องหาด้วยตนเอง เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นการขยายจากกลุ่มเครือข่ายผู้ค้าในจังหวัดสิงห์บุรี ที่ว่าจ้างกลุ่มนักบินมาลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่อ.ปาย นำไปส่งกลุ่มผู้ค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคกลาง ขณะนี้รู้ตัวผู้สั่งการแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป