ตำรวจ สภ.ละหานทราย ตามจับครบแก๊ง 5 โจ๋ห้าว ขี่ จยย.ใช้มีดไล่ฟันอริ วัย 14 ปี เกือบตาบอด ปฏิเสธไม่ได้ฟัน-แค่ใช้ท่อนไม้กระหน่ำตี อ้างฉุนผู้บาดเจ็บตะโกนด่า-เบิ้ลเครื่อง จยย.ท้าทายหน้าบ้าน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่ น.ส.อรัญญา วรวงค์ อายุ 32 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ และแจ้งความที่ สภ.ละหานทราย กรณีที่ ด.ช.ศรัณย์พร อายุ 14 ปี ลูกชาย ถูกกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ขี่รถ จยย. 2 คัน ไล่ติดตามขว้างระเบิดปิงปองใส่ ลูกชายพยายามขับรถจักรยานยนต์หนีจนเสียหลักล้ม ก่อนถูกหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ขี่ จยย.ไล่ตาม ใช้มีดกระหน่ำฟันที่ใบหน้าและศีรษะ เป็นแผลฉกรรจ์จนตาเกือบบอด เคราะห์ดีที่ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุตะโกนช่วยได้ทัน กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงพากันขี่ จยย.หลบหนี ไม่งั้นคงจะทำร้ายลูกชายจนถึงแก่ชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านโคกเฟือง ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ สามารถติดตามจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นเยาวชนที่ก่อเหตุได้ครบทั้งหมดแล้ว รวม 5 คน เป็นเยาวชนอายุตั้งแต่ 13-18 ปี จากการสอบถามเบื้องต้น กลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามทำร้าย ด.ช.ศรัณย์พร จริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ปาระเบิดปิงปองใส่ และไม่ได้ใช้มีดฟัน แค่ใช้ท่อนไม้กระหน่ำตีเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ไล่ทำร้ายนั้น เพราะวันเกิดเหตุ ด.ช.ศรัณย์พร (ผู้บาดเจ็บ) ได้ขี่ จยย.มาก่อกวนแถวหน้าบ้าน แล้วตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาบ และเบิ้ลรถ จยย.เสียงดังเหมือนท้าทายหาเรื่อง จึงเกิดความโมโห จึงพาพวกรวม 5 คน ขี่รถ จยย.ไล่ตามทำร้ายเพื่อสั่งสอนเท่านั้น ไม่คิดว่าจะทำร้ายจนสาหัส หรือถึงแก่ชีวิต รู้สึกเสียใจและสำนึกผิด

...

นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนอยู่คนละหมู่บ้านกับคนเจ็บ แต่ไม่เคยมีปัญหากันส่วนตัว ที่ผ่านมาผู้บาดเจ็บกับพวกหลายคนเคยมาหาเรื่องไล่ทำร้ายร่างกายพวกตนมาก่อน จากนั้นก็เป็นอริกัน กระทั่งวันเกิดเหตุผู้บาดเจ็บกับเพื่อนขี่ จยย.ผ่านมาหน้าบ้านแล้วตะโกนด่าด้วยคำหยาบคาย ทั้งยังเบิ้ลรถ จยย.เสียงดังไล่ ทำให้ตนรู้สึกโมโห เพราะปกติก็ไม่ถูกกันอยู่แล้ว ตนจึงโทรตามเพื่อนขี่รถไล่ตามทำร้าย แต่ยืนยันว่าไม่ได้ปาระเบิดและใช้มีดฟัน แค่ใช้ท่อนไม้กระหน่ำตีเท่านั้น จากนั้นก็พากันขี่รถ จยย.หลบหนี

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งจากนั้นจะประสานทีมสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำ เนื่องจากผู้ก่อเหตุบางคนยังเป็นเด็ก ก่อนดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป