ผู้การปทุมฯ เซ็นคำสั่งเด้ง 5 เสือ สภ.ปากคลองรังสิต หลัง ปคม.บุกเข้าทลายผับเถื่อนติดรั้ว ม.ดังย่านรังสิต ปล่อยเด็กต่ำกว่า 20 เที่ยวกว่าครึ่งร้อย


เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.67 พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี มีหนังสือคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ที่.160/2567 เรื่อง ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการและรักษาราชการแทน โดยในหนังสือคำสั่งดังกล่าว ระบุว่า ตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ที่ 159/2567 ลงวันที่ 9 มิ.ย. 2567 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฏในสื่อโซเชียลมีเดีย พาดหัวข่าว "ตำรวจสอบสวนกลางทลายผับเถื่อนติดมหาวิทยาลัยดังย่านรังสิต หลังพบปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี มากถึง 65 คนเข้าใช้บริการ"


โดยรายละเอียดสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 01.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจคันสถานบริการชื่อ “Flip Rangsit” ตั้งอยู่เลขที่ 5/55 หมู่ 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งผลการตรวจค้นพบว่าสถานบริการดังกล่าว มีผู้มาใช้บริการทั้งชายหญิงจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวขออนุญาตตรวจค้นและให้บุคคลในร้านแสดงบัตรประจำตัวประชาชน พบเด็กหรือเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 65 คน โดยมี นายปฏิภาณ อินทรงาม อายุ 28 ปี มาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของร้านและยังให้การว่าร้านแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ มีเพียงใบอนุญาตจำหน่ายสุราเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมพร้อมแจ้งข้อหา “ตั้งสถานบริการ (สถานที่ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการโดยหวังประโยชน์ทางการค้า) ประเภทที่มีอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่าย หรือให้บริการโดยจัดให้มีการแสดงดนตรี หรือแสดงอื่นใดเพื่อการบันเทิง ซึ่งปิดให้บริการหลัง 24.00 น. และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในเวลาที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดเวลาห้ามขาย” โดยเหตุเกิดในพื้นที่รับผิดชอบของ สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต

...


เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเพื่อให้การบริหารราชการของ สภ.ปากคลองรังสิต เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามมาตรา 68 มาตรา 105 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2566 จึงให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการและรักษาราชการแทนในตำแหน่งต่างๆ ดังนี้


พ.ต.อ.ณรงค์ เอี่ยมระหงษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต, พ.ต.ท.ชัยรัตน์ แย้มวงษ์ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต, พ.ต.ท.กัณณพงศ์ พุทธชาติ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต, พ.ต.ท.นิติธร ศุภชัยวรกุล สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต

และ พ.ต.ต.สันติภาพ ศิริมาตย์ สารวัตรป้องกันปราบราม สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี (ศปก.ภ.จว.ปทุมธานี) โดยขาดจากต้นสังกัด ประกอบด้วย


และให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทนในตำแหน่งต่างๆ ประกอบด้วย

พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต อีกหน้าที่หนึ่ง

พ.ต.ท.บุญส่ง รัศมี รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรคลองสิบสอง รักษาราชการแทนในตำแหน่ง รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต

พ.ต.ท.เผด็จ กระแตวงศ์ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองเสือ รักษาราชการแทนในตำแหน่ง รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต

พ.ต.ท.วิวรรธน์ แก้วพลู สารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี รักษาราชการแทนในตำแหน่ง สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต


ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง


นอกจากนี้ ยังมีคำสั่ง ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ที่ 159/2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 117 พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วย


1. พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานกรรมการ

2. พ.ต.อ.สมเกียรติ สีมาคุปต์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เป็นกรรมการ

3. พ.ต.ท.สุวัฒน์ โพธิ์รี สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธปากคลองรังสิต เป็นกรรมการ/เลขานุการ


โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอถ้อยคำสำนวนเพื่อพิจารณาภายใน 15 วัน นับแต่คณะกรรมการได้รับทราบคำสั่งนี้ ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้ใดกระทำผิดวินัย หรือบกพร่องในการปฏิบัติการตามหน้าที่ให้เสนอความเห็นพร้อมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาในคราวเดียวกัน