โจ๋ 19 ใช้ปืนปลอมจี้ชิงทอง ร้านดังในอำเภอวังเจ้า จ.ตาก หนีไม่รอด ถูกตำรวจแกะรอยตามจับถึงบ้านพัก เจอเจ้าของถึงกับร้องไห้ยกมือขอโทษ พร้อมบอกไม่ได้ตั้งใจ เหตุไม่มีเงิน และเป็นหนี้หลายหมื่นบาท และน้อยใจที่โดนหลอกขายไอโฟน 


จากกรณีมีเหตุปล้นร้านทอง ชายแต่งกายเสื้อแขนยาวลายพราง สวมหมวกนิรภัย บุกเข้าไปที่ร้านทองแม่ศรีอุน หมู่ที่ 1 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก โดยคนร้ายใช้จักรยานยนต์ สีฟ้า แต่งรถเป็นรถส่งพัสดุ ไปจอดหน้าร้าน พร้อมกับถือกล่องพัสดุขนาดเล็ก 1 ชิ้น พอเข้าไปในร้าน เอากล่องพัสดุวาง และเอามือล้วงกระเป๋า แต่น้องสาวเจ้าของร้านรีบหนีไปหลังร้าน ทำให้ชายดังกล่าวตกใจ และรีบคว้ากล่องพัสดุวิ่งออกไปจากร้านรีบสตาร์ตรถหนีไปอย่างเร็ว 


เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 มิ.ย. 67 ที่ สภ.วังเจ้า พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.จว.ตาก, พ.ต.อ.การุญ วงศ์จันทรมณี ผกก.สส.ภ.จว.ตาก และ พ.ต.อ.วสันต์ ศิริกาญโกมล ผกก.สภ.วังเจ้า ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาพยายามจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง โดยชุดสืบ สภ.วังเจ้า ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ภายในร้านและหน้าร้าน พบว่าชายดังกล่าวที่ก่อเหตุ สวมเสื้อแขนยาวลายสก๊อต สีดำ-ขาว สวมกางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน และใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ด้านหลังมีสิ่งของคล้ายถุงพลาสติกหรือผ้า สีน้ำเงิน ปกปิดแผ่นป้ายทะเบียน จนได้แบ่งกำลังกันออกติดตามจับกุมโดยทันที และทราบเส้นทางที่ชายก่อเหตุดังกล่าวใช้หลบหนี คือใช้เส้นทางเข้าบ่อบำบัด ชุมชนบ้านเกาะฤาษี ม.1 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก มุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านสบยม ม.2 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก โดยมีพลเมืองดีผู้แจ้งว่าเห็นชายตำหนิรูปพรรณตรงผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อว่านายอภิรักษ์ วงษ์ชมพู หรือ ภู อายุ 19 ปี 

...


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ก.จว.ตาก ได้เข้ามาร่วมติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน 1กง 8821 กำแพงเพชร ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งนายอภิรักษ์ ให้การยอมสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุเข้าไปในร้านทองแม่ศรีอุน แล้วเอาปืนปลอม เป็นปืนของเล่นที่ซื้อได้ตามร้านค้าในตลาดนัด ไปขู่เจ้าของร้านให้ส่งทองให้ แต่ไม่ได้ทองแล้วหลบหนีกลับบ้าน พร้อมกับหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน 


ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ รับสารภาพว่า ตนเองเป็นพนักงานขนส่งพัสดุบริษัท J&T และเมื่อผู้ก่อเหตุได้เจอหน้ากับเจ้าของร้านอีกครั้ง ก็ได้ร้องไห้พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมบอกว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใครส่วนปืนที่ใช้เป็นปืนปลอมของน้องที่บ้าน สาเหตุเพราะไม่มีเงินใช้จ่ายในแต่ละวัน พร้อมกับเป็นหนี้หลายหมื่นบาท ซึ่งหนี้สินก้อนนี้ตนได้เอามาจากการรับส่งพัสดุของบริษัทแห่งหนึ่งที่ตนทำงานอยู่ ซึ่งเงินก้อนนี้ที่ตนนำออกมาเป็นเงินถึง 56,000 บาท ส่วนหนึ่งเอามาใช้จ่ายส่วนตัวและเพื่อจะนำมาซื้อ โทรศัพท์ iPhone ผ่านเพจ ซึ่งเมื่อสั่งไปแล้วปรากฏว่าไม่ได้รับของตามที่สั่งมิหนำซ้ำยังโดนทางร้านที่สั่งของเก็บเงินไปแล้ว ส่วนของที่ได้ไม่ใช่ iPhone ทำให้ตนเกิดความน้อยใจเสียใจเป็นอย่างมากและต้องหาเงินมาชดใช้หนี้ที่นำเงินของบริษัทมาใช้จ่ายก่อน ส่วนข่าวก่อนหน้านี้ที่เป็นหนี้พนันออนไลน์ ตนยอมรับว่าเคยเล่นจริงแต่ไม่ได้เป็นหนี้พนันออนไลน์แต่ถูกมิจฉาชีพออนไลน์หลอกขายโทรศัพท์


ด้านนายณรงค์ วงษ์ชมพู อายุ 59 ปี บิดา เล่าถึงนิสัยหรือพฤติกรรมของลูกทั้งน้ำตาว่าลูกชายและตนเองอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านและมีน้องสุดท้องอีกคน ซึ่งลูกชายคือ นายภู ผู้ต้องหาในคดีพยายามชิงทรัพย์ร้านทอง ปกติเป็นคนมีนิสัยอ่อนโยนสุขุมเรียบร้อยอ่อนโยน ชอบเล่นกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอล ซึ่งลูกชายรักการเตะฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนตัวพ่อกับลูกชายนั้นสนิทกันมากซึ่งลูกชายมักจะเล่าถึงเหตุการณ์ในแต่ละวันที่พบเห็นมาเล่าให้พ่อฟังทุกเรื่อง รวมถึงเหตุการณ์ที่ลูกชายไปก่อเหตุดังกล่าว ผู้เป็นพ่อได้ฟังก็ตกใจแต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรได้แต่บอกว่า "ลูกเอ๊ยมีอะไรทำไมไม่รู้จักปรึกษา" ก่อนหน้านี้มีเรื่องอะไรก็เล่าสู่กันฟังทุกเรื่อง 

ทั้งนี้นายณรงค์ผู้เป็นพ่อยังได้ฝากขอโทษไปยังเจ้าของร้านทองที่ลูกชายได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าของร้านทองอีกด้วย ส่วนการเล่นพนันออนไลน์หรือการคุยแชตสาวผ่านสื่อออนไลน์นั้น นายณรงค์ผู้เป็นพ่อยอมรับว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกชายมีพฤติกรรมดังกล่าว