"มท.1" ร่วมตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวจับยาบ้า 4.8 ล้านเม็ด มูลค่าประมาณ 140 ล้านบาท ซุกรถหกล้อลักลอบลำเลียงส่งลูกค้าใน จ.ปทุมธานี พร้อมรวบผู้ต้องหา 1 ราย "อนุทิน" ยัน รบ.เอาจริงปราบยานรก ฝากเตือนสติคิดถึงครอบครัว ก่อนทำผิดกฎหมาย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. 67 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เดินทางมาที่ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยมี พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.สามโคก เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา พร้อมยาบ้า 4.8 ล้านเม็ด มูลค่าประมาณ 140 ล้านบาท
โดย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนตำรวจภาค 1 ได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่รับผิดชอบ จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติดและทีมลำเลียงยาเสพติดได้เป็นจำนวนมากหลายคดี จึงทำให้ทราบว่า นายครรชิต กันยามา หรือเก่ง อายุ 30 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเสพติดเพื่อมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ชั้นในประเทศไทย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับสั่งการให้ทำการสืบสวนจับกุม และบูรณาการกำลังสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของ นายครรชิต เพื่อทำการจับกุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผบช.ภ.1 กล่าวต่อว่า ในวันที่ 7 มิ.ย. 67 จากการสืบสวนทราบว่า นายครรชิต ผู้ต้องหา ใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะบียนกรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก เพื่อมาส่งลูกค้าในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการสะกดรอยติดตาม จนถึงบริเวณถนนคลองหลวง-เชียงราก ม.5 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี รถคันดังกล่าวได้จอดริมถนน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้นภายในรถ พบถุงกระสอบจำนวนหลายใบ ภายในบรรจุยาบ้าประมาณ 4,800,000 เม็ด จึงควบคุมตัว นายครรชิต พร้อมของกลางยาบ้าและรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าว มาที่ สภ.สามโคก เพื่อทำการสอบสวน และแจ้งข้อหา "จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต"
...
ด้าน นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลประกาศเป็นศัตรูกับยาเสพติด เอาจริงเอาจังในภารกิจปราบยาบ้า ยิ่งจับได้อีกฝ่ายก็ยิ่งจะส่งกลับเข้ามาขายเพื่อถอนทุนคืน จึงทำให้มีการจับยาบ้าเพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้ฝ่ายผู้กระทำผิดเกิดอุปสรรค ตอนนี้ กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้การไฟฟ้าเข้าไปดูแล้วว่า มีการส่งไฟฟ้าไปยังกลุ่มที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตรวจพบเจอจะมีการตัดไฟและดำเนินการตามกฎหมายทันที เราพยายามทำความยุ่งยากให้เกิดขึ้นกับคนเหล่านั้น ให้รู้ว่าประเทศไทยรับไม่ได้
"ทราบมาว่าวิธีการเสพยาบ้ามีความหลากหลายพอสมควร มีการเผากับฟอยล์แล้วสูบ ข้างในฟอยล์มันมีสารอะไรบ้าง ไปเผาแล้วไปสูดเอาเข้าร่างกาย มันจะตายเพราะฟอยล์ก่อนยาเสพติด มันอันตรายมาก ผมไม่อยากจะสอน แต่เป็นพฤติกรรมที่โง่เขลามาก" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ทุกครั้งที่มีการจับผู้ลำเลียงยาเสพติดได้ ก็มักจะกล่าวอ้างว่ามีความจำเป็นต้องทำ ต้องทำเพื่อครอบครัว แต่ความเป็นจริงคือไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงขอเตือนผู้ที่คิดรับจ้างส่งยาเสพติดว่า ให้คิดถึงครอบครัวมากๆ ก่อนลงมือทำผิดกฎหมาย เพราะไม่คุ้มที่ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งรัฐบาลยืนยันทำหน้าที่สกัดกั้นยาเสพติดทุกช่องทางอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตรวจเจอการกระทำผิด ท่านทำเพื่อครอบครัว แต่ว่าถ้าท่านถูกจับกลายมาเป็นข่าว ลูกหลานของท่านจะอยู่ต่อไปอย่างไร ตรงนี้ต้องคิดให้ไกลๆ
"ผมต้องขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการปราบปรามจับกุมผู้ประพฤติผิดในคดียาเสพติด นี่คืออันตรายที่แท้จริงของประเทศชาติ กำลังทำลายอนาคตของประเทศ เราต้องรีบหยุดการกระทำนั้นให้เร็วที่สุด" นายอนุทิน กล่าว