ผบช.ภ1 แถลง เปิดไทม์ไลน์หนุ่ม นศ.ราชภัฏ ฆ่าแฟนสาว 18 แทงคอ ตัดมือ หมกศพใต้ทางด่วน พบทะเลาะกันรุนแรงตั้งแต่ตี 2 ก่อนก่อเหตุในห้องน้ำห้องนอน นำศพไปทิ้ง พี่ชายไปพบหมดสติเหตุกินยาเกินขนาด พบประวัติรักษาจิตเวชนานเป็นปี และมีคดีกระทำอนาจารเด็กต่ำกว่า 15 ปี ตอนเป็นผู้เยาว์  


เย็นวันที่ 5 มิ.ย. ความคืบหน้ากรณี หนุ่ม 18 ฆ่าแฟนสาวห่อศพสภาพเปลือยกาย หมกป่าหญ้าข้างทางใต้ทางด่วน พื้นที่ ม.4 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตำรวจตามไปพบภายในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ย่าน ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ห่างจากจุดพบศพ 6-7 กิโลเมตร


ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายธนากรณ์ หรือ "แซน" อายุ 18 ปี หลังจากลงมือฆ่า นางสาววรัญญา หรือ "น้องหมิ๊งหมิง" อายุ 18 ปี แฟนสาว นำศพไปทิ้งอำพรางแล้วกลับมาบ้านที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ขณะตำรวจเข้าล้อมพื้นที่อยู่นั้น คนร้ายรู้ตัวจึงพยายามกินยาเพื่อหวังฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่คนในครอบครัวมาพบเสียก่อน จึงได้ให้ตำรวจประสานกู้ชีพฯ ช่วยนำส่งโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ซึ่งตำรวจได้แจ้งอายัดตัวทันที

ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เดินทางลงมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุด้วยตัวเอง หลังจากตรวจสอบนานกว่า 1 ชั่วโมง ผบช.ภ.1 ได้มีแถลงถึงเหตุฆาตกรรมดังกล่าวต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เป็นที่สนใจของประชาชน เพราะมีการกระทำที่ค่อนข้างรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้รับแจ้งเหตุวันนี้ เมื่อเวลา 08.00 น.เศษว่า พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง บริเวณใต้ทางด่วนบางพูน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.ปากคลองรังสิต เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุทันที เริ่มจากการตรวจสอบผู้เสียชีวิต พบว่าข้อมือถูกตัดขาดทั้ง 2 ข้าง เฉือนบริเวณลำคอ การตรวจสอบใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงทราบตัวผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งชุดสืบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุคบหากับผู้เสียชีวิตนานกว่า 3 ปี เรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมและกำลังศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่สถาบันเดียวกัน ก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ

...


ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้น จากการสอบถามพยาน เป็นพี่ชายของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่บ้านเดียวกัน ทราบว่ามีเหตุทะเลาะเบาะแว้งกัน ช่วงเวลาประมาณตี 2 เมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) พอเสียงเงียบไป จึงคิดว่าไม่น่ามีเหตุการณ์อะไร แต่เมื่อสอบถามตรงๆ ก็พบว่าผู้ก่อเหตุได้นำศพผู้เสียชีวิตออกจากบ้าน เวลาประมาณ 05.00 น. นำไปทิ้งในจุดพบศพ

   

ขณะที่ผู้ก่อเหตุ ครอบครัวไปพบว่ากินยาเกินขนาด จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุดตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว และจากการตรวจสอบพบมีประวัติการรักษาจิตเวชนานกว่า 1 ปี อีกทั้งยังมีประวัติอาชญากรรมในคดีทำอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เมื่อปี 2565 ในพื้นที่ สน.คันนายาว

“เมื่อไปตรวจสอบ จุดเกิดเหตุคือห้องน้ำ ในห้องนอน บริเวณชั้น 2 ของบ้าน พบร่องรอยการก่อเหตุที่ห้องน้ำ ทั้งคราบเลือดและมีดอีโต้ ขนาด 1 ฟุต พร้อมกับเขียงทรงกลม โดยบ้านหลังนี้อาศัยอยู่กับครอบครัวรวม 4 คน ประกอบด้วย ผู้ก่อเหตุ ผู้ตาย พี่ชายผู้ก่อเหตุ และพี่สะใภ้ ช่วงที่เกิดเหตุทุกคนอาศัยอยู่ในบ้าน แต่พี่ชายและพี่สะใภ้นอนหลับแล้ว และยังมีห้องนอนของแม่คั่นกลาง ทำให้ไม่ได้ยินเสียงช่วงก่อเหตุ จากการสอบถามคนในครอบครัว ยอมรับว่าทั้งคู่เคยทะเลาะกัน แต่ยังไม่เคยถึงขั้นทำร้ายร่างกาย กระทั่งรุ่งเช้าวันต่อมาพี่ชายและแม่ได้เห็นข่าวรูปพรรณสัณฐานของชายต้องสงสัย และรถจักรยานยนต์ จึงมาตรวจสอบที่บ้านจนสามารถช่วยชีวิตผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ไม่พร้อมที่จะให้ปากคำ แต่สันนิษฐานว่าแรงจูงใจน่าจะเกิดจากการหึงหวง”

พล.ต.ท.จิรสันต์ ระบุอีกว่า ผู้ต้องหามีประวัติการรักษาจิตเวช จากนี้จะมีการสอบปากคำพ่อ รวมถึงพยานแวดล้อม และหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป โดยตอนนี้ยังไม่พบข้อมือทั้ง 2 ข้างที่ถูกตัดขาดหายไป แต่พฤติกรรมดังกล่าวแสดงถึงเจตนาที่ชัดเจน


อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุอายุ 18 ปี ย่าง 19 ปี จึงต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมายทั่วไป ซึ่งเบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและอำพรางศพเพื่อปิดบังการตาย ล่าสุด ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว